นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ข้อสรุป จะมีการเปิดลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจนรอบใหม่ วันที่ 5 ก.ย. -19 ต.ค.นี้ โดยจะเปิดลงทะเบียนผ่านสาขาธนาคารรัฐ 3 แห่ง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่น อาทิ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สำนักงานเขต กทม. และผ่านช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์บัตรคนจนทั้งนี้ คาดว่าบัตรคนจนรอบใหม่ จะมีผู้ลงทะเบียนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเล็กน้อย 13 ล้านคน เพิ่มเป็น 15-16 ล้านคน ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด และเมื่อลงทะเบียนเสร็จคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบคุณสมบัติ และเปิดให้ยื่นอุทธรณ์ไปจนถึงสิ้นปี ก่อนจะเริ่มใช้บัตรสวัสดิการรอบใหม่ได้ช่วงเดือนม.ค.66 โดยการใช้สิทธิรอบนี้จะใช้ผ่านบัตรประชาชนทั้งหมด ไม่มีบัตรสวัสดิการให้แล้ว
สำหรับสิทธิประโยชน์จะมีการปรับปรุงให้มีความเป็นธรรมทั่วถึงระหว่างคนในเมืองและต่างจังหวัดมากขึ้น ขณะเดียวกันจะพิจารณาเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่เพิ่มในปัจจุบัน เช่น วงเงินสำหรับใช้ซื้อสินค้า 200-300 บาท ขณะที่ผู้ที่ใช้บัตรสวัสดิการฯ เดิม ไม่ต้องกังวล ขณะนี้ยังใช้สิทธิ์ได้ตามปกติ จนกว่าจะมีบัตรสวัสดิการรอบใหม่ ที่เป็นบัตรประชาชนมาแทน
นายสันติกล่าวว่า การลงทะเบียนรอบนี้จะมีการจ้างนักศึกษาระดับปริญญาตรี ปวช. และปวส. มาช่วยดูแลการลงทะเบียนประมาณ 45 วัน ตำบลละ 5 คน ทั่วประเทศ 35,000 คน โดยใช้งบประมาณกว่า 750 ล้านบาท นอกจากนี้ จะมีการลงนามกับหน่วยงานภาครัฐ 38 หน่วยงานเพื่อเชื่อมโยงนำข้อมูลมาใช้ตรวจสอบบัตรสวัสดิการฯ ซึ่งจะมีพิธีลงนามวันที่ 16 ส.ค.นี้
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน. จะเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นออมเพิ่มสุข รอบพิเศษ วงเงินรวม 21,000 ล้านบาท โดยจำหน่ายให้เฉพาะผู้ที่ไม่ได้รับจัดสรรพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นออมเพิ่มสุข ในรอบจำหน่ายเดือนมิถุนายน 2565 ซึ่งการจำหน่ายในครั้งนี้ เป็นพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นอายุและดอกเบี้ยเดียวกันกับพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นออมเพิ่มสุข ในรอบจำหน่ายเดือนมิถุนายน 2565 เนื่องจากในครั้งนั้นมีปัญหาทางด้านระบบ การจำหน่ายรอบพิเศษนี้ เพื่อกระจายสิทธิ์ให้กับประชาชนทุกราย ได้เป็นเจ้าของพันธบัตรออมทรัพย์อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
สำหรับการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นออมเพิ่มสุข รอบพิเศษ วงเงิน 21,000 ล้านบาท จะจำหน่ายผ่านธนาคารตัวแทนทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ โดยจำหน่ายให้แก่ประชาชน วงเงิน 20,000 ล้านบาท จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ยร้อยละ 2.90 ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ยร้อยละ 3.60 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน จองซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 22 – 24 สิงหาคม 2565 และจำหน่ายให้แก่นิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร วงเงิน 1,000 ล้านบาท รุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ยร้อยละ 3.30 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน สามารถซื้อได้แบบไม่จำกัดวงเงินซื้อ จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 29 – 30 สิงหาคม 2565 ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ซื้อได้ที่เว็บไซต์ สบน. www.pdmo.go.th และเว็บไซต์ ธปท. www.bot.or.th ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป