ใคร “สวมสิทธิทุเรียนส่งออกจีน”ต้องรับโทษ

น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร (กวก.) มอบให้ด่านตรวจพืชเชียงของ จ.เชียงราย และด่านตรวจพืชจันทบุรี แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุดกับบริษัทผู้ส่งออก และโรงคัดบรรจุหรือล้งในจังหวัดจันทบุรี 1 แห่งที่ร่วมกันนำเอกสารรับรองแปลงสวนทุเรียนจีเอพี (GAP) ของเกษตรกรมาสำแดงเท็จต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อขอใบอนุญาตส่งออกทุเรียนไปจีน เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองด่านได้ประสานกันและตรวจสอบพบทุเรียนที่รวบรวมเตรียมส่งออกไปจีน มีแมลงศัตรูพืช มีโรคพืช ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.กักพืช ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของการส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศ รวมถึงตรวจพบเจ้าของแปลงไม่ได้ขายทุเรียนลอตดังกล่าว

“ด่านทั้งสองแห่งจึงยังไม่มีการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชและใบอนุญาตส่งออกไปจีนแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้ให้นโยบายกับกรมวิชาการเกษตร มาตลอดเรื่องความเข้มข้นในการตรวจจับทุเรียนสวมสิทธิ เพื่อรักษามาตรฐานและคุณภาพของทุเรียนไทย ซึ่งทั้งรัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ ถือเป็นนโยบายสำคัญ จะเห็นว่า นอกจากมีมาตรฐานจีเอพี (GAP) แล้วยังได้สร้าง จีเอพี พลัส (GAP Plus) ออกมาในช่วงวิกฤติโควิด-19 เพื่อรักษาตลาดทุเรียนไทยที่ส่งออกไปจีนรวมถึงนานาประเทศด้วย โดยเฉพาะกับจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ จึงมีการหารือเพื่อกำหนดมาตรฐานส่งออกร่วมกันจนเป็นที่เป็นยอมรับ ดังนั้นจะไม่ปล่อยปลาเน่าหนึ่งตัวมาทำลายเศรษฐกิจและชื่อเสียงของประเทศชาติ ทั้งนี้จะให้มีการตรวจสอบย้อนหลังทุกด่านด้วยหากมีการส่งออกทุเรียน เนื่องจากขณะนี้แทบจะไม่มีผลผลิตออกมาแล้ว” รมช.เกษตรฯ กล่าว

ด้าน นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ได้เน้นย้ำในเรื่องมาตรการตรวจสอบการนำแปลงทุเรียนจีเอพี (GAP) ที่กรมวิชาการเกษตร (กวก.) ออกให้กับเกษตรกรที่มีการจัดการแปลงที่ดีมาสวมสิทธิ เพื่อส่งออกทุเรียนไปจีนซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้ามากที่สุด เพื่อให้ทุกด่านตรวจพืชปฏิบัติ รวมถึงการใช้ระบบ e-Phyto (E-Phytosanitary Certificate) ในการสนับสนุนการทำงานให้เร็วขึ้น และจากการลงพื้นที่พร้อม ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ระหว่าง 30-31 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา ก็ได้ให้นโยบายในเรื่องนี้กำชับไว้อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นจะเห็นว่าผลจากแนวทางปฏิบัติทำให้สามารถตรวจพบการสวมสิทธิการส่งออกทุเรียนในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากจะดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว กรมจะแจ้งให้จีนเพิกถอนรายชื่อเอกชนรายดังกล่าวออกจากผู้มีสิทธิส่งออกไปจีน และในส่วนของแปลงจีเอพีหากสอบพบว่ามีส่วนร่วมกระทำผิดจะถอนแปลงจีเอพีเช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง