พระธรรมวชิรมุนี (บุญชิต ญาณสํวโร) เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กล่าวเปิดโครงการถวายความรู้แด่พระคิลานุปุฏฐาก ในการอุปัฏฐากพระสงฆ์อาพาธที่เอื้อต่อพระธรรมวินัย ว่า พระคิลานุปัฏฐากมีความสำคัญต่อการดูสุขภาพพระสงฆ์และชุมชน พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญผู้ดูแลภิกษุไข้ว่าเป็นเสมือนได้ดูแลพระพุทธองค์ ขอให้พระสงฆ์ที่ผ่านการอบรมได้ช่วยทำหน้าที่ในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์และชุมชน
นพ.อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผอ.รพ.สงฆ์ กล่าวว่า ปัจจุบันพระสงฆ์มีสุขภาพที่ยังต้องดูแลรักษาโรคอีกหลายประการ โดยเฉพาะโรคติดต่อไม่เรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง เข่าเสื่อม ไตวายเรื้อรัง และภาวะความเครียดที่เกิดจากสภาพแวดล้อมทางสังคม ดังนั้น รพ.สงฆ์ ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์และประชาชนทั่วไป จึงสร้างมาตรการในการป้องกัน การรักษา เพื่อให้พระสงฆ์มีสุขภาพที่ดี โดย รพ.สงฆ์ มีนโยบายที่จะพัฒนาศูนย์ดูแลพระสงฆ์ในระดับวัดและในระดับภาคจำนวน 18 ภาคของคณะสงฆ์ เพื่อให้เป็นที่ดูแลรักษาสุขภาพ และรองรับพระสงฆ์สูงวัยในอนาคต สำหรับโครงการพระคิลานุปัฏฐาก เกิดขึ้นจากการดำริของมหาเถรสมาคม (มส.) โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมงฺกโร) เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) กรรมการ มส. เป็นประธาน สืบเนื่องมาจากการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติปี 2560 โดยยกกรอบธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์มาเป็นกิจกรรมที่สำคัญ คือ 1.การพัฒนาพระคิลานุปัฏฐากเพื่อดูแลสุขภาพพระสงฆ์ภายในวัดและชุมชน โดยมีพระสงฆ์ผ่านการอบรมของ รพ.สงฆ์ และกรมอนามัยแล้วจำนวน 7,500 รูปทั่วประเทศ 2.การส่งเสริมให้วัดเป็นวัดส่งเสริมสุขภาพ โดยมีวัดที่เข้าเกณฑ์เป็นวัดส่งเสริมสุขภาพจำนวน 2,500 วัด 3.การส่งเสริมงานสาธารณสงเคราะห์วิถีพุทธ เพื่อให้พระสงฆ์เข้าไปช่วยดูแลประชาชนที่เจ็บป่วยและผู้สูงอายุในชุมชนต่างด้วย
