รองนายกฯประวิตรลงพื้นที่หนองจอก-มีนบุรี สั่งเร่งระบายน้ำท่วมขัง บูรณาการทำงานช่วยประชาชน

วันที่ 14 กันยายน 2565 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วย พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่เขตมีนบุรี และหนองจอก โดยจุดแรก พลเอกประวิตร เดินทางมายังประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ ตอนมีนบุรี โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะ มารอต้อนรับ เพื่อรายงานสถานการณ์น้ำ โดยก่อนการลงพื้นที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก

ซึ่งทันทีที่พลเอกประวิตรมาถึง ได้รับฟังการรายงานสถานการณ์จากนายชัชชาติ ว่า ปัญหาในกรุงเทพขณะนี้ คือมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมา กประมาณ 230 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายไปแล้ว 130 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งการระบายน้ำฝั่งตะวันออก คือระบายลงคลองแสนแสบ เพื่อเข้าสู่ประตูพระโขนง หรือระบายลงผ่านคลองประเวศ ซึ่งการระบายน้ำกรุงเทพฝั่งตะวันออกทำได้ลำบาก เพราะไม่มีทางไป และหากจะระบายน้ำออกด้านล่างก็ลำบาก หรือจะผลักดันน้ำออกแม่น้ำบางปะกงก็เป็นพื้นที่สูง ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมบริเวณเขตลาดกระบัง

ขณะเดียวกันปัญหาคือน้ำทุกสายมาลงที่คลองพระโขนง ทำให้อันตราย เพราะน้ำจะเข้ามาในเขตเมือง ดังนั้นในอนาคตต้องมีแผนทำอุโมงค์หรือทางด่วนน้ำให้ลงสู่อ่าวไทยให้เร็วขึ้น โดยตนเองจะเสนอแผนต่อ สทนช. ในเร็วๆนี้ ส่วนสถานการณ์ปัจจุบันได้รับการสนับสนุน จากทหาร กรมชลประทาน กองทัพเรือ นำเครื่องผลักดันน้ำและกำลังพลจากทหารบก มาช่วยเหลือแล้ว

ด้านพลเอกประวิตร กล่าวว่า ต้องเร่งช่วยเหลือประชาชนให้รอดพ้นจากผลกระทบน้ำท่วมให้เร็วที่สุด พร้อมกำชับเลขาธิการ สทนช. ให้ประชุมโดยเร็ว และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองมาร่วมวางแผนด้วย ทั้งนี้ถ้าเป็นคลองจะทำได้เร็ว แต่หากเป็นอุโมงค์จะเสียงบประมาณจำนวนมาก

จากนั้นพลเอกประวิตร ได้ดูปริมาณน้ำที่ประตูระบายน้ำ พร้อมสั่งให้เร่งช่วยเหลือหมู่บ้านที่ยังมีน้ำท่วมขัง เพราะบางที่จมมา 7 วันแล้ว โดยให้นำเครื่องสูบน้ำไปช่วยเหลือสูบน้ำออกโดยเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ซึ่งผู้ว่าฯกทม.รับปากจะรีบดำเนินการระบายน้ำลงสู่คลองหลัก และในอีก 1-2 วัน จะปิดล้อมเร่งช่วยเหลือหมู่บ้านในพื้นที่ย่อยต่างๆ ที่ยังมีน้ำท่วมขัง ซึ่งต้องขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากรัฐบาลด้วย ในการนี้พลเอกประวิตร ชื่นชมว่า กทม.ได้ผู้ว่าฯที่เข้มแข็ง ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.ตอบกลับว่า เป็นความร่วมมือของหลายหน่วยงาน พร้อมขอบคุณกองทัพเรือที่ส่งเรือผลักดันน้ำมาช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และรวดเร็ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง