นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ว่าผลจากการดำเนินนโยบายพยุงการบริโภคของภาคประชาชน รักษาระดับการใช้จ่ายในประเทศ และการกระตุ้นเศรษฐกิจจากหลายโครงการของรัฐบาล ทั้งโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน การให้บริการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการ บวกกับสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่อนคลายลงทำให้สัญญาณเศรษฐกิจไทยฟื้น แม้ต้องเผชิญกับปัญหาราคาน้ำมัน ภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลสินค้าราคาแพงขึ้น แต่เป็นสิ่งที่ทั่วโลกเจอเหมือนกันบางประเทศสูงกว่าร้อยละ 10 หรือสร้างประวัติศาสตร์เงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี โดยไทยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นแล้วยังถือว่าเงินเฟ้อไม่สูงมาก อยู่ที่ร้อยละ 6 อีกทั้งยังมีสัญญาณบวกคือการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวตั้งแต่มกราคมจนถึงเมื่อวาน (16 ก.ย.65) มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยแล้ว 5 ล้านคน คาดจนถึงสินปีจะมีนักท่องเที่ยวกลับเข้าไทยรวม 8-10 ล้านคน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวต่ออีกว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีลักษณะการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและมั่นคง โดยมองว่า มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในประเทศคู่กับการดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ การส่งออก และการลงทุนของภาครัฐ ที่เดินหน้าต่อเนื่อง จะเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้นได้ โดยจะมีแรงส่งไปถึงปีหน้า และทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ถึง ร้อยละ 3-4