ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมโฆษณาของประเทศไทยมีเม็ดเงินลงทุนผ่านสื่อดิจิทัลโดยรวมเพิ่มขึ้นสะสมในอัตราเติบโต 27.5% ในทุกๆ ปี แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด แต่เม็ดเงินลงทุนผ่านสื่อดิจิทัลก็สามารถเติบโตขึ้น
สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ Digital Advertising Association (Thailand) (DAAT) คาดการณ์ว่าเม็ดเงินลงทุนผ่านสื่อดิจิทัลจะเพิ่มมากขึ้นประมาณ 9% ในปี 2565 เป็น 27,040 ล้านบาท โดยการคาดการณ์นี้มีปัจจัยทางเศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง
การเพิ่มขึ้นของเม็ดเงินลงทุนในสื่อดิจิทัลมาจากปัจจัยหลัก ได้แก่ พฤติกรรมในการเสพสื่อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่ๆ ที่เข้ามาในตลาด เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเพิ่มมากขึ้น การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น และความเร็วของอินเตอร์ที่แรงขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้สื่อดิจิทัลเป็นสื่อที่คุ้มค่าแก่การลงทุนและมีประสิทธิภาพเพื่อจะเชื่อมต่อกับผู้บริโภค
Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่แบรนด์ต่าง ๆ เลือกใช้ในการสื่อสารกับผู้บริโภค คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของเม็ดเงินลงทุนผ่านสื่อดิจิทัลทั้งหมด ตามมาด้วย YouTube คิดเป็นสัดส่วน 17% และ Social คิดเป็นสัดส่วน 9% ของเม็ดเงินลงทุนบนสื่อดิจิทัล
ในขณะที่ TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มมาใหม่ มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดที่กว่า 654% และมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตเพิ่มอีก 26% ในปี 2565 และอาจติด 10 อันดับแรกในปีนี้
ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกต ว่า “ประสบการณ์ในการรับชม YouTube ถูกแทรกซึมโดยโฆษณาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่า YouTube จะก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยโฆษณาที่ข้ามไม่ได้มากถึง 10 รายการในช่วงเวลาเดียวกัน
ปกติแล้วโฆษณาใน YouTube จะปรากฏก่อนที่วิดีโอจะเริ่มต้นและระหว่างวิดีโอหากครีเอเตอร์อนุญาต โดยทั่วไปโฆษณาเหล่านี้อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีหรือนาน 2-3 นาที แต่โฆษณาที่ยาวขึ้นมักจะมีตัวเลือกให้ข้ามโฆษณานั้นหลังจากช่วงระยะเวลาหนึ่ง
หากแต่ในช่วง 1-2 ดือนที่ผ่านมา ผู้ดู YouTube บางคนสังเกตว่า โฆษณาบนแพลตฟอร์มมีการขยายความยาวและปริมาณอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบที่ข้ามไม่ได้ โดยหลายกระทู้ใน Reddit ระบุว่า โฆษณาใน YouTube มาบ่อยขึ้น และบางคนเห็นโฆษณามากถึง 10 รายการติดต่อกันที่ไม่สามารถข้ามได้ แม้โฆษณาเหล่านี้ส่วนใหญ่มีความยาวเพียง 5 หรือ 6 วินาทีต่อครั้งก็ตาม”
เมื่อดูจากฟีดแบคของ YouTube แล้ว ปัญหานี้อาจได้รับการแก้ไขในอีกไม่ช้า แต่ก็น่าคิดต่อไปอีกว่า YouTube อาจกำลังคิดจะเพิ่มจำนวนโฆษณาเข้ามาจริงๆ ในอนาคต และเป็นการบีบกลายๆ ให้หันมาจ่าย YouTube Premium