หนุ่มลอบขาย “ปลาปิรันยา” เตรียมปล่อยขายต่อ เตือนอันตรายหากปล่อยลงแหล่งน้ำ กรุงเทพฯ อาจเป็น Amazon!!
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่กรมประมง ร่วมกันจับกุม นายอภิสิทธิ์ฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี กระทำความผิดตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 มาตรา 64 ข้อหา “ครอบครองสัตว์น้ำ (ปลาปิรันยา) ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่ายกายมนุษย์หรือต่อสัตว์น้ำอื่นโดยผิดกฎหมาย” และมีโทษตามมาตรา 144 “ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 64 หรือมาตรา 65 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ประกอบกฎกระทรวงกำหนดสัตว์น้ำที่ห้ามมีไว้ในครอบครอง พ.ศ.2559 พร้อมตรวจยึดของกลาง ปลาปิรันยา ขนาด 6 – 7 ซม. จำนวน 6 ตัว อยู่ในตู้กระจกบรรจุน้ำ โดยเตรียมจำหน่ายผ่านไลน์และเฟซบุ๊ก คิดราคาตามขนาดและความสวยงาม ราคาประมานหลักพันถึงหลักหมื่นบาท โดยทำมาแล้วประมาณ 1 ปี
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. สืบสวนพบว่า นายอภิสิทธิ์ฯ ใช้บ้านพักย่านสายไหม กรุงเทพฯ ลักลอบเลี้ยงปลาปิรันยาเพื่อการค้า ซึ่งใช้บ้านพักเป็นจุดส่งมอบ โดยใช้วิธีการติดต่อประกาศซื้อขายกันทางแอปพลิเคชันไลน์และเพจเฟซบุ๊ก
พฤติกรรมของผู้ที่กระทำความผิดอาจสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศทางน้ำ ซึ่งเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ทางน้ำ เนื่องจากประเทศไทยเป็นพื้นที่เขตร้อนชื้น ซึ่งปลาปิรันยาสามารถแพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว หากหลุดรอดลงไปในแหล่งน้ำธรรมชาติจะก่อให้เกิดอันตรายอย่างมาก เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำพื้นเมืองแล้ว ยังเป็นการคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพ จนก่อให้เกิดความสูญเสียต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสุขอนามัย รวมทั้งเป็นอันตรายต่อประชาชนที่ลงไปใช้ประโยชน์ในแหล่งน้ำสาธารณะด้วย
จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนของกลางพนักงานสอบสวนนำส่งให้ กรมประมง เพื่อตรวจพิสูจน์และเก็บรักษาต่อไป
