นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีกำแพงโบราณประตูช้างเผือก ทางทิศเหนือของเขตเมืองเก่าเชียงใหม่ถล่ม เนื่องจากฝนตกหนัก ว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ พร้อมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ได้เข้าไปดำเนินการเก็บซากอิฐกำแพงที่ถล่มลงมาแล้ว และจากที่ได้รับรายงาน พบว่า บริเวณแนวกำแพงที่ถล่มลงมานั้น มีการบูรณซ่อมแซมมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งส่วนที่ทำการบูณะนั้น เป็นการก่อรูปเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ทางสถาปัตยกรรม และโครงสร้างอาจจะไม่ได้มีการเสริมความมั่นคงแข็งแรงเพิ่มเติม และด้วยเวลาผ่านไป มีเหตุการณ์ภัยธรรมชาติทุกปี อาจะส่งผลให้อิฐที่ก่อกำแพงเสื่อมสภาพ ประกอบกับฝนตกสะสม ทำให้กำแพงถล่มลงมาได้
นายกิตติพันธ์ กล่าวอีกว่า ภายหลังจากที่ฝนหยุด ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ สำนักศิลปากร ที่ 7 เชียงใหม่ เข้าไปทำการสำรวจ ตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมกันนี้กำชับให้สำนักศิลปากร ที่ 7 เชียงใหม่ ประสานงานกับ เทศบาลนครเชียงใหม่ ในการทำจัดแผนการบูรณะในระยะยาว ซึ่งจะต้องมีการหารือกันว่าจะใช้แนวทางบูรณะด้วยวิธีใด จะใช้ฐานรากโครงสร้างเดิมหรือไม่ และที่สำคัญ ต้องเสริมความมั่งคงแขงแรงให้ประตูกำแพงเมืองมากขึ้น นอกจากนี้ จะต้องเข้าไปตรวจสอบแนวกำแพงทุกด้านว่าส่วนใดมีรอยร้าว และมีความเป็นไปได้ที่จะพังลงมา เพื่อหาทางป้องกันไม่ให้ถล่มลงมาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ ได้สั่งการให้จัดทำป้ายห้ามเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวโดยเด็ดขาด และให้หาวิธีค้ำยันประตูเมืองส่วนที่มีความเสี่ยงถล่มเพิ่มแล้ว