จากกรณีอุบัติเหตุคดีเยาวชนวัย 16 ปี ขับรถหรูฝ่าไฟจราจรชนบัณฑิตหนุ่มเสียชีวิต บริเวณสี่แยกไฟแดง ถนนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา เมื่อคืนวันที่ 30 ก.ย. 2565 ได้สร้างกระแสดราม่าและมีการนำเสนอข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ มากมาย
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) เปิดเผยว่า การที่เด็กอายุ 15 ปี เกือบ 16 ปี เป็นถึงนักกีฬาทีมชาติ หมายความว่าเป็นเด็กที่มีศักยภาพ มีฝีมือ มีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่กลับตกเป็นทาสของทุนนิยม การที่พ่อแม่มีลูกเก่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่าหลงใหลได้ปลื้มกับความสำเร็จของลูก และตอบสนองด้วยรถราคาแพง ในขณะที่ลูกยังไม่พร้อมทั้งวุฒิภาวะและทางกฎหมาย
“แม้ลูกตัวเองจะเก่งด้านอื่น แต่เรื่องบนถนนไม่มีใครเก่งเกินกว่าอุบัติเหตุ ต้องรู้ว่าถนนประเทศไทยไม่ใช่สถานที่ของคนที่คิดว่าตัวเองเก่ง เพราะคนที่คิดว่าเก่งตายไปกันหมดแล้ว และยิ่งเคสนี้อายุยังไม่ถึงเกณฑ์แล้วมาขับรถ ไม่มีใบขับขี่ ไปชนคนอื่นตาย ยิ่งทำให้เกิดความสูญเสียมากมาย ผู้ที่เสียชีวิตจบปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยม เป็นเสาหลักของครอบครัว เมื่อเสียชีวิตลงเปรียบเสมือนครอบครัวพังทลาย หากมองอีกมุมคืองการเรียนจบ มีงานทำไม่ใช่เครื่องยืนยันว่าจะรอดจากอุบัติเหตุทางถนน เพราะว่าการเรียนหนังสือเก่ง ได้รับการยอมรับในแวดวงการศึกษา ไม่ใช่คำตอบของการมีชีวิตรอด” นายพรหมมินทร์ กล่าว
ณ วันนี้ความโศกเศร้าของครอบครัวผู้สูญเสียยังไม่จางหาย ยังทวงถามความยุติธรรมให้กับลูกชายอยู่ เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยยังต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวคิด ทัศนคติ และร่วมหาทางออกร่วมกันเพื่อป้องกันความสูญเสียไม่ให้เกิดซ้ำรอย