นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม และ อธิบดีกรมต่างๆ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการ “ทุกครอบครัวและสังคมต้องปลอดภัย ด้วยกฎหมาย JSOC“ ที่กระทรวงยุติธรรม โดยได้มีการนำคดีดังในอดีต ที่เข้าข่ายต้องถูกเฝ้าระวังหลังพ้นโทษ มาแสดง เช่น คดี นายสมคิด พุ่มพวง , ไอซ์ หีบเหล็ก รวมถึงผู้ที่ติดยาเสพติดและมีพฤติกรรมทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิตด้วย
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ กรมคุมประพฤติ ได้มานำเสนอ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง หรือ กฎหมาย JSOC เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม สำหรับการดำเนินการเฝ้าระวังบุคคลอันตราย หลังพ้นโทษ ในคดี 3 กลุ่ม คือ ทางเพศ ฆ่าผู้อื่น และเรียกค่าไถ่ ซึ่งกฎหมายนี้ ได้เกี่ยวข้องกับกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องนำกลุ่มบุคคลอันตราย ที่ยังอยู่ในเรือนจำ เข้าสู่การบำบัดฟื้นฟูทางการแพทย์ และหลังพ้นโทษ ก็จะมีการเฝ้าระวังด้วยการใส่กำไลอีเอ็ม อีกไม่เกิน 10 ปี โดยหลายคดีที่นำมาจัดนิทรรศการ ก็จะต้องถูกเฝ้าระวังตามกฎหมายป้องกันกระทำผิดซ้ำด้วย ซึ่งในอดีตเมื่อพ้นโทษ จะไม่มีการเฝ้าระวัง
“ที่สังคมให้ความสนใจอยู่ตอนนี้ คือ ผู้ติดยาเสพติด เกิดอาการหลอนแล้วก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนอื่นนั้น ผมก็ขอย้ำว่า คนกลุ่มนี้ ก็จะถูกเฝ้าระวังด้วยการใส่กำไลอีเอ็มด้วย จึงอยากให้ประชาชน เกิดความมั่นใจว่า กระทรวงยุติธรรม ได้เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังบุคคลอันตราย เพื่อช่วยทำให้สังคมเกิดความปลอดภัย ใช้ชีวิตกันได้ตามปกติ ไม่ต้องหวาดระแวง โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง”รมว.ยุติธรรม กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มบุคคลอันตราย ขณะนี้ เราได้มีการจัด Watchlist เป็น 3 กลุ่ม คือ Watchlist 1 กลุ่มผู้พ้นโทษ ออกจากเรือนจำ จำนวน 132 คน ซึ่งขณะนี้ กฎหมายยังไม่มีผลบังคับใช้ ทำให้กรมคุมประพฤติ ทำได้แค่เยี่ยมเยียนเท่านั้น ส่วน Watchlist 2 กลุ่มที่กำลังจะออกจากเรือนจำ จำนวน 27 คน และ Watchlist 3 กลุ่มที่กำลังจะเข้าเรือนจำ จำนวน 52 คน ซึ่งกลุ่มนี้ จะมีการขอให้ใช้กฎหมายใหม่ ในสำนวนด้วย