“เสือดำ” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Panthera pardus ซึ่งเป็นคำเดียวกับชื่อวิทยาศาสตร์ของ “เสือดาว” เสือดำและเสือดาวมีขนาดและรูปร่างเหมือนกันทุกประการ มีเพียงสีสันภายนอกเท่านั้นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งในทางสัตวศาสตร์ทั้งสองจัดเป็นสัตว์ชนิดเดียวกัน
เนื่องจากในการผสมพันธุ์ของเสือดาวแต่ละครั้งนั้น ลูกเสือที่เกิดใหม่ในคอกเดียวกัน สามารถพบได้ทั้งเสือดาวธรรมดาและเสือดำ ลักษณะสีดำของเสือเกิดจากการมีปริมาณเม็ดสีที่เรียกว่า“Melanism”จำนวนมาก เสือที่เกิดมาจึงมีสีดำตลอดทั้งลำตัว โดยที่ยังมีลายหรือลายจุดคงอยู่ แต่จะสังเกตเห็นได้ยาก จะเห็นได้ชัดเจนเมื่ออยู่ในแสงแดด
การเกิดเป็นสีดำของเสือดาวนี้ เกิดขึ้นได้ในเสือหลายชนิด มีการค้นพบเสือจากัวร์ดำในทวีปอเมริกาใต้ เสือพูม่าดำในทวีปอเมริกาเหนือ เสือไฟดำในทวีปเอเชีย และ เซอร์วัล แมวป่าในทวีปแอฟริกาก็พบว่ามีการผ่าเหล่าเป็นสีดำเช่นกัน
สถานภาพปัจจุบันของเสือดาว-เสือดำ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และจัดให้อยู่ในบัญชีหมายเลข 1 ของไซเตส คือชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่มีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ ห้ามค้าโดยเด็ดขาด รวมทั้งไอยูซีเอ็น (IUCN) จัดให้ อยู่ในสถานะสัตว์ป่าที่มีความเสี่ยงขั้นอันตรายต่อการสูญพันธุ์ (Vulnerable) จากการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่า และการล่าอย่างหนัก
อ้างอิง : Thailand Tiger Project DNP , https://www.sarakadee.com/2018/02/13/black-panther/
ที่มา : สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า Wildlife Conservation Office, Thailand
