ไทยเข้ม 7 มาตรการนำเข้าเศษพลาสติกเพื่อนำมารีไซเคิล ไม่ใช่ขยะพลาสติก

กรมโรงงานอุตสาหกรรมมั่นใจ 7 มาตรการ ตรวจทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุเศษพลาสติกนำเข้าตั้งแต่ด่านกรมศุลกากรถึงโรงงานผลิตมีความเข้มงวดจนผู้นำเข้าไม่กล้าแตกแถว เผยนับตั้งแต่ปี 2561 ไม่มีโควตานำเข้าใหม่เพิ่ม ยกเว้นโควตานำเข้าเดิมที่จะสิ้นสุดเดือน ก.ย. 2563

นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กรอ. ได้ออก 7 มาตรการในการตรวจปล่อยสินค้าเศษพลาสติกที่ได้รับโควตาการนำเข้าอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจในการตรวจปล่อยเศษพลาสติกที่นำเข้าตั้งแต่ด่านศุลกากรไปถึงปลายทางหรือโรงงานทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่ได้รับโควตานำเข้า ป้องกันไม่ให้มีการนำเข้าเศษพลาสติกไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ตามที่ผู้ประกอบการแจ้ง หรือป้องกันการลักลอบไปใช้ผิดเจตนารมณ์ของ กรอ. ที่ต้องการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมส่งเสริมขีดความสามารถเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจของประเทศ และป้องกันไม่ให้เศษพลาสติกนำเข้าไปสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมในประเทศ

7 มาตรการ ประกอบด้วย

1. เศษพลาสติกที่มีโครงสร้างทางเคมีแตกต่างกัน (ชนิดต่างกัน) จะต้องแยกไม่ปะปนกัน

2. เศษพลาสติกต้องไม่สกปรก หรือปนเปื้อนสารอินทรีย์ จนทำให้มีสีหรือกลิ่นอันพึงรังเกียจ หรือมีกลิ่นเน่า

 3. เศษพลาสติกต้องไม่มีเศษวัสดุอื่นเจือปนจนทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้โดยตรง เช่น มีเศษอิฐ หิน ดิน ทราย เจือปน จนทำให้ต้องนำไปผ่านกระบวนการคัดแยก หรือทำความสะอาดก่อนนำไปใช้ประโยชน์

4. ต้องสามารถระบุชนิดและประเภทของพลาสติกได้ชัดเจน

5. ต้องระบุรายละเอียดของพลาสติกให้ชัดเจนว่าเป็นพลาสติกชนิดใด และต้องระบุประเภทของพลาสติกตรงตามที่ปรากฏในเอกสารใบตราส่ง และใบขนสินค้าด้วยด้วย

ส่วนมาตรการที่ 6. ต้องแจ้งรายละเอียด และปริมาณของเศษพลาสติกก่อนการนำเข้า หรือก่อนนำสินค้าออกจากด่านศุลกากรทุกครั้ง โดยต้องมีข้อมูลต่าง ๆ เช่น สำเนาใบตราส่ง ใบตราส่งเลขที่ สำเนาใบขนสินค้าขาเข้าฯ (หากมี) ชนิดของพลาสติก ปริมาณการนำเข้า (กก.) จำนวนตู้สินค้า หมายเลขตู้สินค้า ลักษณะบรรจุภัณฑ์ ปริมาณคงเหลือก่อนหน้า ปริมาณคงเหลือ สำเนาใบอนุญาต พร้อมเอกสารแนบ และใบอนุญาตเพิ่มเติม

7. เอกสารที่ปรากฏต้องสอดคล้องกับรายละเอียดที่ปรากฏในใบขนสินค้า และใบตราส่ง

กรณีที่มีนักวิชาการบางกลุ่มได้ออกมาวิจารณ์ว่า ในปี 61-62 ประเทศไทยนำเข้าขยะพลาสติกจากต่างประเทศมากถึง 480,000 ตัน สูงเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน ทำให้ปัจจุบันสินค้าพลาสติกมีคุณภาพต่ำราคาถูก และกลายมาเป็นขยะท่วมประเทศไทย นั้น

ความจริง คือ ประเทศไทยอนุญาตให้นำเข้าเฉพาะเศษพลาสติกที่สามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบผลิตเป็นพลาสติกใหม่ ไม่อนุญาตให้นำเข้าที่เป็นขยะ ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตโควตาการนำเข้าเศษพลาสติกจะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด ว่านำเศษพลาสติกที่นำเข้ามาเข้าสู่กระบวนการผลิตของโรงงานโดยตรง และมีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี

หากเจ้าหน้าที่ กรอ. และกรมศุลกากรตรวจพบว่า มีการปนเปื้อนหรือ การลักลอบนำเข้าก็จะให้ผลักดันกลับประเทศต้นทางทันที รวมถึงจัดการโรงงานที่ไม่ดำเนินการตามที่ได้รับอนุญาต

ปัจจุบันยังมีปริมาณโควตานำเข้าเศษพลาสติก เพื่อเป็นวัตถุดิบซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2563 และตั้งแต่ปี 2561 ทางคณะอนุกรรมการเพื่อบูรณาการการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ และเศษพลาสติกที่นำเข้าจากต่างประเทศอย่างเป็นระบบ ไม่ได้อนุญาตให้มีโควตาการนำเข้าใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง