นโยบาย Medical Hub หรือ การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หนึ่งในเป้าหมายของรัฐบาล ด้วยการที่โลกปัจจุบันกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น และประเทศไทยเป็นจุดหมายสำคัญด้านการท่องเที่ยวที่มีความพร้อมทุกด้านสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศมูลค่ามหาศาล ลดการพึ่งพิงการนำเข้ายา เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์จากต่างประเทศ สร้างความรู้ต่อยอดเกิดประโยชน์ด้านสาธารณสุขของไทยอย่างยั่งยืน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า หลังสถานการณ์โรคโควิด 19 คลี่คลายลงได้ใช้แนวคิด Health for Wealth เป็นนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข คือ ใช้สุขภาพสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ หนึ่งในนั้นคือนโยบาย Medical Hub ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางการแพทย์ครบวงจรและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งในปี 2564 Medical Tourism Association จัดอันดับให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยติดอันดับ 5 ของโลก ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไทยได้รับการยอมรับ คือ
- แพทย์ไทยมีศักยภาพและมีชื่อเสียงในหลากหลายสาขาเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
- ประเทศไทยมีชื่อเสียงด้านคุณภาพและมาตรฐานการรักษาระดับสากล
- ค่ารักษาพยาบาลสมเหตุสมผล
- ค่าครองชีพไม่สูงมาก เหมาะแก่การพำนักรักษาตัวและพักฟื้นร่างกายในระยะยาว
- ภาครัฐมีมาตรการสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น มาตรการขยายเวลาพำนักในไทยกรณีเข้ามารักษาพยาบาล การเพิ่มประเภทวีซ่ารักษาพยาบาล (Medical Visa) Non-MT ชนิดใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (Multiple Entry) คราวละไม่เกิน 1 ปี (อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียด)
- มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของ Wellness ทั้งการนวดไทย สปา ผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ เป็นซอฟต์เพาเวอร์ที่มีส่วนช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวและรายได้เข้าประเทศไทยมากขึ้น และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง
Medical Hub จูงใจนักท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำรวจข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติ ระหว่างเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2565 พบว่า กิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ การรับประทานอาหารไทย 90.57% นวดและสปา 48.23% กิจกรรมชายทะเล 48.12% และท่องเที่ยวสถานที่ทางประวัติศาสตร์ 46.22% ส่วนการท่องเที่ยวพร้อมการตรวจสุขภาพ จัดอยู่ในลำดับที่ 16 สำหรับด้านค่าใช้จ่าย พบว่า กลุ่มที่ท่องเที่ยวพร้อมตรวจสุขภาพ มีการใช้จ่ายเฉลี่ย 35,074 บาท/คน/ทริป อีกทั้งหลังจากที่ไทยสามารถควบคุมโรคโควิด-19 ได้ดีและลดระดับความรุนแรงเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ข้อมูลจาก ททท. เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 ชาวต่างชาติมาเที่ยวไทยทะลุ 10 ล้านคน คาดจะสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
คนไทยได้อะไรจาก Medical Hub
นโยบายดังกล่าวประกอบด้วย 4 เป้าหมายหลัก โดยในแต่ละเรื่องไทยเราก็จะได้รับประโยชน์ต่าง ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมตามไปด้วย ได้แก่
ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) เช่น นวดไทยเพื่อสุขภาพ สปาเพื่อสุขภาพ น้ำพุร้อน ช่วยให้คนไทยมีรายได้ทำจากการงานบริการด้านสุขภาพ หรือรายได้จากการขายสินค้าด้านสุขภาพ เป็นต้น
ศูนย์กลางบริการสุขภาพ (Medical Service Hub) เช่น การบริการการรักษาเฉพาะทาง การตรวจสุขภาพทันตกรรม ศัลยกรรมตกแต่งและเสริมความงาม บริการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก
ศูนย์กลางบริการวิชาการและงานวิจัย (Academic Hub) เช่น การพัฒนาทางด้านการศึกษา การจัดประชุมวิชาการนานาชาติ สามารถสร้างองค์ความรู้ต่อยอดด้านการแพทย์ในประเทศได้ ตลอดจนมีการจัดประชุมต่าง ๆ ช่วยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ได้อีกด้วย
ศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Product Hub) เช่น การพัฒนายาแผนปัจจุบัน อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เครื่องสำอางค์ อุปกรณ์ทางการแพทย์
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข / ททท.