กรมชลฯ ยัน ปริมาณน้ำเพียงพอ พร้อมรับมือเอลนีโญ



ตามที่เลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ประกาศเตือนถึงปรากฏการณ์เอลนีโญที่จะทำให้ฤดูฝนของประเทศไทยปีนี้ ปริมาณฝนจะตกน้อยกว่าปกติ และอาจกินระยะเวลายาวนานไปจนถึงต้นปีหน้า ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางที่มีการใช้น้ำเพื่อการเพาะปลูกเป็นจำนวนมาก จนเกิดความกังวลต่อผลผลิตทางการเกษตร นั้น
.
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เอลนีโญอย่างต่อเนื่อง พร้อมวางแผนรับมือด้วยการเก็บกักน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ไว้ให้ได้มากที่สุด การบริหารจัดการน้ำฝนผ่านระบบคลองชลประทานแทนการระบายน้ำจากเขื่อนเพื่อเป็นการประหยัดน้ำ มีการจัดรอบเวรการใช้น้ำ รวมทั้งให้สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสูบน้ำตามรอบเวรอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทานลงพื้นที่ให้คำแนะนำเกษตรกรที่ยังไม่ได้เพาะปลูกให้ทยอยปลูกพืช เมื่อมีฝนตกในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอและใช้น้ำฝนเป็นหลักในการเพาะปลูก เพื่อลดความเสี่ยงผลผลิตเสียหาย สำหรับพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกแล้ว จะดำเนินการส่งน้ำตามรอบเวรของแต่ละพื้นที่
.
นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำและอุปกรณ์ต่างๆ ไว้คอยช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ ทั้งนี้ ยังได้พิจารณาใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ไม่ว่า จะเป็นแก้มลิงหรือบ่อบาดาลมาช่วยเสริมในกรณีที่เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำอีกด้วย ที่สำคัญได้ประชาสัมพันธ์ถึงปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะส่งผลต่อสถานการณ์น้ำให้ประชาชนและเกษตรกรได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) กำหนด เพื่อบรรเทาปัญหาที่จะเกิดกับประชาชนและเกษตรกรให้ได้มากที่สุด
.
อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต หากหน่วยงานหรือประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ชลประทานบริการประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง