เช็กก่อนเชื่อ! กู้ออนไลน์ยังไง ให้ไม่โดนหลอก!!

อีกหนึ่งกลโกงออนไลน์ของมิจฉาชีพ คือการแฝงตัวมาในรูปแบบของ “การปล่อยเงินกู้ออนไลน์” โดยการส่งข้อมความ SMS หรือโพสต์ข้อความบนโซเชียลเชิญชวนให้กู้เงิน อ้างว่ากู้ง่าย ดอกเบี้ต่ำ ไม่ต้องใช้เอกสาร ไม่ต้องมีหลักประกัน หรือบัตรประชาชนใบเดียวก็กู้ได้เลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจให้บุคคลที่ต้องการใช้เงินหลงกลได้อย่างง่ายดาย สำหรับใครที่หลงเชื่อ นอกจากจะไม่ได้เงินแล้ว ยังอาจจะเสียทรัพย์หรืออาจโดนมิจฉาชีพนำข้อมูลส่วนตัวไปทำให้เสียหายได้อีกด้วย

เช็ก! วิธีป้องกันการโดนหลอกจากการกู้ออนไลน์

1.ตรวจสอบให้มั่นใจว่าแหล่งเงินกู้ออนไลน์มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่?
ตรวจสอบข้อมูลการติดต่อ สถานที่ตั้งที่ทำการ เบอร์โทรศัพท์สำนักงาน หากเป็นบริษัทที่มีตัวตนอยู่จริงมักจะแจ้งข้อมูลการติดต่อบนหน้าเว็บไซต์อยู่แล้ว

2.อ่านเงื่อนไขการกู้ให้ละเอียด ตรวจสอบให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจกู้
อ่านเงื่อนไขให้ละเอียด โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้ว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่าไหร่ เงื่อนไขการแบ่งชำระเงิน

3.อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาว่าให้กู้เงินเยอะ วงเงินสูง
พึงระลึกและตระหนักไว้เสมอว่า ยิ่งวงเงินสูงมากเท่าไหร่ ดอกเบี้ยยิ่งแพงมากขึ้นเท่าน้้น แล้วยิ่งกรณีที่สินเชื่อออนไลน์เหล่านี้ไม่ใช่การให้สินเชื่อในนามสถาบันการเงิน ดังนั้นดอกเบี้ยของสินเชื่อเหล่านี้จึงสูงกว่าดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน

4.อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวมากเกินความจำเป็น
ก่อนที่เราจะให้ข้อมูลเหล่านั้น เราต้องตรวจสอบให้แน่นอนก่อนว่าเว็บไซต์ที่ให้เรากู้เงินนั้น มีตัวตนอยู่จริง ไม่ได้เป็นมิจฉาชีพ

5.ห้ามโอนเงินก่อนเด็ดขาด
มิจฉาชีพส่วนใหญจะหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินไปก่อน แล้วถึงจะโอนเงินกู้มาให้ภายใน 2-3 วัน เช่น หากคุณต้องการเงินกู้ 60,000 บาท คุณต้องโอนเงินไปก่อน 600 บาท ถึงจะได้รับเงิน ถ้ามีการบอกกล่าวเช่นนี้ ให้เราสงสัยก่อนเลยว่าอาจจะเป็นมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน เพราะส่วนใหญ่การขอสมัครสินเชื่อ ทางสถาบันการเงิน หรือผู้ให้กู้จะไม่ให้ผู้ขอกู้โอนเงินก่อนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก่อนที่จะกู้เงิน ถ้าเข้าให้โอนเงินไปก่อน ห้ามโอนเงินก่อนเด็ดขาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง