ตร. แจงด่านตรวจสิงห์บุรีตั้งถูกต้องไม่ใช่ชุดเฉพาะกิจผู้การตามที่มีการเสนอข่าว “จราจรกลางสิงห์บุรี” หรือ “ชุดเฉพาะกิจผู้การ” ตรวจจับความเร็วโดยมิชอบด้วยกฎหมาย มีการหมกเม็ดและไม่ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัยฯ นั้น
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุได้ดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวพบว่า การตั้งจุดตรวจตามที่เป็นข่าว บริเวณถนนสายเอเชีย หมายเลข 32 ขาขึ้นเหนือ เป็นจุดตรวจของจุดตรวจของ สถานีตำรวจภูธรพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อจับกุมผู้กระทำผิดในเขตทางเดินรถหรือทางหลวงกรณีปกติเป็นการชั่วคราว โดยมีพันตำรวจโทภูสิษฐ์ ก้อนทอง ตำแหน่งสารวัตรฯ เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติและได้รับอนุมัติจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี ถูกต้องตามระเบียบและข้อสั่งการที่เกี่ยวข้อง ยืนยัน จุดตรวจดังกล่าวไม่ใช่จุดตรวจจราจรกลางสิงห์บุรีตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใดขณะที่การออกใบสั่งจราจรก็ดำเนินการปรับเป็นพินัยตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยเจ้าหน้าที่สามารถออกใบสั่งตามมาตรา 140 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ได้ทั้ง 3 รูปแบบ (ใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับให้กับผู้ขับขี่ ติด ผูก หรือแสดงไว้ที่รถ/ใบสั่งสำหรับส่งทางไปรษณีย์/ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์) โดยแนบคำแจ้งสิทธิตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 ไปพร้อมใบสั่ง (สิทธิการขอผ่อนชำระ/สิทธิขอชำระค่าปรับต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือบริการสาธารณะ) โดยช่องทางการชำระค่าปรับจราจร สามารถชำระได้ 3 ช่องทางตามเดิม (ทางอิเล็กทรอนิกส์/ไปรษณีย์/ที่สถานีตำรวจ)โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน มีความพร้อมในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 โดยมีแนวทางเปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียว เป็นความผิดทางพินัย โดยความผิดทางพินัยไม่ถือเป็นโทษทางปกครองหรือทางอาญา ผู้ถูกกล่าวหา สามารถผ่อนชำระหรือขอชำระค่าปรับต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือขอทำงานบริการสาธารณะได้ ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สังคมต่อไป