ตามที่มีการนำเสนอประเด็นผ่านสื่อออนไลน์ระบุถึง การลักลอบทิ้งเศษโลหะและขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่บดย่อยแล้วบริเวณด้านหลังเทือกเขาซับพลู-เขาภูหีบ อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว โดยนำซากมาบดย่อยและนำมากองไว้เพื่อคัดแยกเอาไปขายหรือหลอมเอาทองแดงและทองคำนั้น
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ชี้แจงว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชเพื่อสร้างความชัดเจนของแหล่งที่มาของกองของเสียที่ตรวจพบในอำเภอวังน้ำเย็นจังหวัดสระแก้วและหาผู้รับผิดชอบในการดำเนินการนำกากของเสียดังกล่าวไปกำจัดให้ถูกต้องโดยหากตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าเศษวัสดุเป็นของโรงงานใดจะต้องดำเนินคดีในข้อหานำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กรมโรงงานอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างมาก โดยมีมาตรการคุมเข้มทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เพื่อให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ ดังนั้น หากพบผู้กระทำผิดก็จะลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุดเพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นการสร้างปัญหาต่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นอันตรายต่อสุขภาพชาวบ้าน
กรมโรงงานอุตสาหกรรม ยืนยันว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้สั่งห้ามนำเข้าซากอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาในประเทศไทยแล้วตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไปและจนถึงปัจจุบันทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมก็ยังไม่มีการอนุญาตให้มีการนำเข้าแต่อย่างใด ดังนั้น ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นการลักลอบนำเข้าหรือเป็นขยะของเก่าก่อนที่จะมีประกาศสั่งห้ามนำเข้า
