น้ำเชื่อมแก้ไอที่มีส่วนผสม “โคเดอีน” ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นนิยมนำไปผสมน้ำอัดลม เพื่อสร้างความมึนเมา ทำให้ได้รับความนิยมมากและมีอัตราเพิ่มขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งน้ำหวานหรือน้ำเชื่อมที่ผสมโคเดอีนนี้ ส่งผลให้เกิดการติดยาและมีอาการข้างเคียงเมื่อขาดยา และทำให้เกิดปัญหาการก่ออาชญากรรมจากการหาเงินมาซื้อ หรือผลข้างเคียงเมื่อเสพยาเกินขนาด สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วไป
การกระทําดังกล่าวมีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ฐานจำหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขายยาบรรจุเสร็จหลายขนานโดยจัดเป็นชุดในคราวเดียวกัน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จำหน่ายยาอันตรายหรือควบคุมพิเศษในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 และเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537 ฐานไม่ได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากตรวจพบโคเดอีน (ยาเสพติดให้โทษประเภท 2) จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ฐาน “ผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 หรือประเภท 4 ต้องระวางโทษ จําคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท”
ที่มา : กระทรวงยุติธรรม
ข้อมูลจาก : – พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มาตรา 12 มาตรา 32 มาตรา 72 (4) มาตรา 75 ทวิ มาตรา 101 มาตรา 107 มาตรา 122 มาตรา 122 ทวิ
– พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 มาตรา 40
– พระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537 มาตรา 28 มาตรา 44 มาตรา 50
– พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 มาตรา 91 มาตรา 146
– ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 พ.ศ. 2565
– ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดชนิดและจำนวนยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ที่จะต้องใช้ในทางการแพทย์ และทาง- วิทยาศาสตร์ทั่วราชอาณาจักรประจำปี พ.ศ. 2565