นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทาน ได้เข้าแก้ไขและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช อย่างเร่งด่วน โดยได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 15 เครื่อง สูบน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำและเครื่องผลักดันน้ำอีก 18 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำในคลองสายหลักออกจากตัวเมืองให้ไหลลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันระดับน้ำในคลองสายหลักต่างๆ ได้ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว รวมทั้งบริเวณซอยต่างๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ทั้งนี้ ถ้าหากไม่มีฝนตกต้นน้ำและบริเวณพื้นที่เทศบาลนครศรีธรรมราช สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติในเร็ววันนี้
ในส่วนของการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาว กรมชลประทานได้รับการจัดสรรงบประมาณโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปีงบประมาณ 2561 – 2563 เพื่อดำเนินการขุดคลองผันน้ำอ้อมตัวเมืองนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย การขุดคลองระบายน้ำ จำนวน 3 สาย ความยาวประมาณ 18.64 กิโลเมตร การขุดเพิ่มประสิทธิภาพคลองวังวัว ความยาวประมาณ 5.90 กิโลเมตร การขุดเพิ่มประสิทธิภาพคลองท่าเรือ-หัวตรุด ความยาวประมาณ 11.90 กิโลเมตร พร้อมกับก่อสร้างประตูระบายน้ำ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำอีก 7 แห่ง หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถแก้ไขและบรรเทาปัญหาน้ำจากต้นน้ำเขาหลวงที่จะไหลเข้าท่วมเมืองนครศรีธรรมราชได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
ส่วนกรณีชาวบ้านตำบลไชยมนตรี อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งข้อสังเกตการระบายน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาคลองชลประทานท่าดี ที่ระดับน้ำยังคงท่วมขังในเขตเทศบาลนครศรีธรรมราช ประตูน้ำถูกปิดตาย ซึ่งหากเปิดประตูน้ำบานนี้ จะสามารถบรรเทาสถานการณ์น้ำท่วมในเขตตัวเมืองและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมได้นั้น
เรื่องนี้กรมชลประทานได้ตรวจสอบพบว่าคลองเส้นนี้ก่อสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ ใช้เป็นคลองส่งน้ำให้กับพื้นที่เกษตรกรรม ไม่ใช่คลองระบายน้ำ การเปิดน้ำเข้าไปในคลองไม่สามารถช่วยระบายน้ำได้มาก ประกอบกับมีอาคารอัดน้ำอยู่กลางคลองเป็นช่วงๆ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ จึงไม่ได้ช่วยในเรื่องของการระบายน้ำหลากแต่อย่างใด
ที่มา : กรมชลประทาน