นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยแนวทางแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าไม้ (ทุกประเภท) หลัง ครม.อนุมัติหลักการว่า ที่ผ่านมาประชาชนเข้าไปอยู่อาศัยในป่าโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นจำนวนมากหลังจากรัฐบาลดำเนินแนวทางแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ก็สามารถแก้ปัญหาได้เป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าได้ เช่น พื้นที่สูงชัน พื้นที่ชายเลน หรือพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จึงมีการกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาให้ครอบคลุมใน 5 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1 ชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 3-5 ก่อนมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 41
กลุ่มที่ 2 ชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 3-5 หลังมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 41
กลุ่มที่ 3 ชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่ในพื้นที่กลุ่มน้ำชั้นที่ 1-2 ก่อนมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 41
กลุ่มที่ 4 ชุมชนที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ทั้งก่อนและหลังหลังมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 41
และกลุ่มที่ 5 ชุมชนในพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งแต่ละกลุ่มจะได้รับการแก้ปัญหาตามแนวทางที่เหมาะสม ตามเป้าหมาย “รัฐได้ป่า ประชาได้ที่ทำกิน”
รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า มาตรการปรับให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้ จะส่งผลดีต่อการแก้ปัญหาภาพรวม เพราะเมื่อประชาชนมีความสบายใจหลังมีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินอย่างถูกต้อง และจะหันมาเคารพกติการ่วมกันออกแบบ เช่น ร่วมกันการปลูกป่า ทั้งยังทำให้เกิดการสำรวจการถือครอง ลดการขยายการครอบครองที่ดินอย่างผิดกฎหมาย ขณะที่หน่วยงานราชการจะเข้ามาสบับสนุนในด้านต่างๆ ได้ ทำให้เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินในภาพรวมของประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน
ที่มา : กรมป่าไม้
