ต้องทำทุกมิติ แก้ฝุ่นควันพิษ สั่งปรับระเบียบใหม่รถควันดำเกิน‘ห้ามใช้รถชั่วคราว’ ต้องนำไปแก้ไข ภายใน 15 วัน

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมควบคุมมลพิษร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ขานรับนโยบายรัฐบาลในการดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทรถยนต์ โดยเฉพาะการตรวจจับและระงับการใช้ยานพาหนะที่ปล่อยควันดำเกินมาตรฐาน ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุกและรถโดยสารประจำทางที่เป็นของหน่วยงานรัฐและรถร่วมบริการ  ผ่านการปรับปรุงการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 อย่างเข้มข้น 

การปรับระเบียบใหม่ดังกล่าว เป็นการแก้ไขสาระสำคัญ เนื่องจากพบว่าการนำรถที่มีปัญหาควันดำซึ่งถูกติดสติกเกอร์ “ห้ามใช้ชั่วคราว” แอบนำมาใช้วิ่งบนถนน โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจด้วยการออกคำสั่ง “ห้ามใช้ชั่วคราว” ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองยานพาหนะที่มีควันดำเกินมาตรฐานต้องนำรถไปปรับปรุงแก้ไขและนำรถมายกเลิกคำสั่งภายในระยะเวลา 15 วัน นับแต่ถูกสั่งห้ามใช้ชั่วคราว ซึ่งจากเดิมที่กำหนดภายในระยะเวลา 30 วัน และเมื่อพ้นกำหนด 15 วันแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจวัดควันดำจากรถและดำเนินการต่อไปตามแต่กรณี ได้แก่ กรณีไม่เกินมาตรฐาน พนักงานเจ้าหน้าที่จะยกเลิกคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะชั่วคราวและนำเครื่องหมายห้ามใช้ชั่วคราวออกจากยานพาหนะ กรณีเกินกว่ามาตรฐาน พนักงานเจ้าหน้าที่จะออกคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะเด็ดขาด เจ้าของหรือผู้ครอบครองต้องขออนุญาตเคลื่อนย้ายยานพาหนะ เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขสภาพเครื่องยนต์ 

การกำหนดระยะเวลาให้เจ้าของรถที่ปล่อยควันดำเกินมาตรฐานต้องนำรถไปปรับปรุงภายใน 15 วัน (จากเดิม 30 วัน) ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว มีเป้าหมายสำคัญเพื่อลดการก่อมลพิษและปัญหาฝุ่นละออง PM2.5  อีกทั้งเป็นการลดระยะเวลาในการปรับปรุงเครื่องยนต์ เพื่อเร่งให้เจ้าของรถดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว ลดการเพิกเฉยต่อคำสั่งห้ามใช้ ช่วยลดโอกาสที่ผู้ขับขี่จะนำรถที่ถูกสั่งห้ามใช้ออกมาวิ่งบนถนนในช่วงที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขและอาจถูกยกเลิกทะเบียนในการใช้ยานพาหนะดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง