นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กดปุ่มแจกเงินให้กับผู้สูงอายุ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รับลูกต่อจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุที่ได้รับเงินไปแล้ว เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุดทำให้เงิน 10,000 บาท เพิ่มเป็น 12,000/ 13,000 และ 14,000 บาท มาใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีความสุข เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือคนในทุกระดับ คาดว่าการจัดโครงการนี้จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจทั่วประเทศมากกว่า 30,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 91 วันของแคมเปญ และช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้ถึง 10,000 ล้านบาท พร้อมสั่งกรมการค้าภายในดูแลต้นทุนราคาสินค้า ทลายการผูกขาด-คิดกำไรเกินควรด้วย
สำหรับโครงการ “ชูใจ วัยเก๋า 60+” ตอบรับนโยบายรัฐบาลในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวนกว่า 3 ล้านราย โดยได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการ ทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น ร้านสะดวกซื้อ และแพลตฟอร์มออนไลน์ กว่า 200 ราย ใน 3 กลุ่มสินค้า ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มบริการ และกลุ่มแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมกว่า 20,000 รายการ ลดราคาสินค้า สูงสุด 86% ระยะเวลา 91 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 30 มกราคม – 30 เมษายน 2568 เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ที่จะนำเงินไปซื้อสินค้า สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูกลง เป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย ลดค่าครองชีพ และยังช่วยให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับสินค้าที่จะนำมาลดราคาในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับ อาหารเสริม นมเพื่อสุขภาพ ข้าวน้ำตาลน้อย เครื่องดูดฝุ่น เครื่องปรับอากาศ พรมปูพื้นกันลื่น ที่นอนยางพารา ราวจับทรงตัว เครื่องวัดออกซิเจน หน้ากากอนามัย ไม้เท้า เตียงไฟฟ้า รวมถึงหมวดบริการทางการแพทย์ เช่น ส่วนลดตรวจความหนาแน่นมวลกระดูก ตรวจคัดกรองหินปูนเกาะหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า “เศรษฐกิจไทยกำลังไปได้ดี ดูได้จากตัวเลขการลงทุน ปี 2567 ที่มีเข้ามาถึง 1.13 ล้านล้านบาท และการส่งออกปี 2567 ขยายตัวถึง 5.4% เมื่อดูโครงสร้าง GDP กำลังไปได้ด้วยดี สิ่งที่ขาดอยู่คือการบริโภคและหนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยพยายามแก้ ถ้าสามารถกระตุ้นการบริโภคได้จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เชื่อว่ารัฐบาลกำลังเดินไปอย่างถูกต้อง ขอยืนยันว่าทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่ต้องขอเวลาเพราะคนผอมมาเป็น 10 ปี จะให้อ้วนทันทีไม่ได้ ประเทศต้องการลงทุน การกระตุ้นเศรษฐกิจ ขอให้ทุกคนมั่นใจและเชื่อใจ สำหรับเรื่องราคาสินค้าจะเข้ามาดูโครงสร้างราคาสินค้าทั้งหมดว่าสินค้าไหนที่แพงเกินไป คิดราคาโขกประชาชน เราจะลดราคา เข้ามาดูโครงสร้างราคา ตอนนี้มีสินค้าควบคุมแล้ว 57 รายการ จะเพิ่มสินค้าควบคุมอีก 2 รายการ คือ เครื่องดูดฝุ่น กับเครื่องฟอกอากาศ คาดว่าจะเสร็จภายในหนึ่งเดือน ซึ่งเรื่องอะไรที่เป็นปัญหาในปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์พร้อมทำงานดูแลพี่น้องประชาชนเต็มที่
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้มีการโอนเงิน 10,000 บาท ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ (โครงการฯ) ให้กลุ่มเป้าหมายจำนวน 3,025,596 ราย โดยมีผลการโอนเงินแบ่งเป็น โอนเงินสำเร็จจำนวน 2,825,076 ราย (หรือคิดเป็นร้อยละ 93.37) โอนเงินไม่สำเร็จจำนวน 200,520 ราย (หรือคิดเป็นร้อยละ 6.63)
สำหรับสาเหตุที่โอนเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายโอนเงินไม่สำเร็จส่วนใหญ่ ร้อยละ 97.10 ยังไม่ลงทะเบียนสมัครพร้อมเพย์เพื่อผูกบัญชีเงินฝากกับเลขประจำตัวประชาชน และร้อยละ 2.90 ของจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่โอนเงินไม่สำเร็จ เนื่องจากสถานะบัญชีมีปัญหาไม่สามารถใช้งานหรือรับโอนเงินได้