กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาระบบจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ ที่จะเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง 2 หน่วยงาน แบบ Host to Host (ระบบบริการผ่านเครือข่าย) กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เพื่อพัฒนาระบบที่จะรองรับการรับ-ส่งข้อมูลการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ ระหว่าง 2 หน่วยงาน ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมายังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นการส่งเสริมการใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ โดยที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หรือเกษตรกร ไม้ต้องตัดต้นไม้และยังสอดรับกับกระแสโลกในการสร้างเศรษฐกิจสีเขียว
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ บอกว่า กฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น โดยการนำทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจมาใช้เป็นหลักประกันการขอสินเชื่อ โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินกับสถาบันการเงินที่เป็นผู้รับหลักประกัน ซึ่งทรัพย์สินที่สามารถนำมาเป็นหลักประกันได้ตามกฎหมาย ได้แก่ 1) กิจการ เช่น ร้านอาหารเคลื่อนที่ (ฟู้ดทรัค) 2) สิทธิเรียกร้อง เช่น สิทธิในเงินฝาก 3) สังหาริมทรัพย์ที่ผู้ให้หลักประกันใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น เครื่องจักร 4) อสังหาริมทรัพย์ในกรณีที่ผู้ให้หลักประกันประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยตรง เช่น คอนโดมิเนียม 5) ทรัพย์สินทางปัญญา เช่น เครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ และ 6) ทรัพย์สินอื่นคือ ไม้ยืนต้น ตั้งแต่เปิดให้จดทะเบียน ในเดือนกรกฎาคม 2559 จนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2568 มีจำนวนการจดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ กว่า 867,000 คำขอ มูลค่าวงเงินหลักประกันกว่า 19 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นไม้ยืนต้น เพียง 185 ล้านบาท จำนวน 167,302 ต้น คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.001% ของมูลค่าวงเงินหลักประกันรวมเท่านั้น ซึ่งหากมีการพัฒนาระบบจดทะเบียนที่ดีขึ้น ประกอบกับการเพิ่มการประชาสัมพันธ์ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ก็เชื่อว่า มีการใช้ต้นไม้เป็นหลักประกันขอสินเชื่อเพิ่มขึ้น
นายไพศาล หงษ์ทอง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. บอกว่า ธนาคารฯ กำหนดไม้ยืนต้น ที่สามารถเป็นหลักประกันได้มี 58 ชนิด และหลังจากสินเชื่อไปแล้ว ก็สามารถใช้ประโยชน์จากต้นไม้ สร้างมูลค่าได้ รวมถึงดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันได้ด้วย โดย ธ.ก.ส. เป็นธนาคารแห่งแรกที่รับไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ โดยจนถึงปัจจุบัน รับไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันแล้ว 1,520 ต้น วงเงินหลักประกันมากกว่า 10 ล้านบาท สำหรับสถาบันการเงินที่รับ ไม้ยืนต้น เป็นหลักประกันทางธุรกิจ มี ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทยและกลุ่มพิโกไฟแนนซ์