แพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ รองอธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานเปิดมหกรรมกระโดดโลดเต้นเล่น 60 นาที เพื่อเด็กไทยสูงดี สมส่วน แข็งแรง ซึ่งกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กรมพลศึกษา กรมประชาสัมพันธ์สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางการประเทศไทย ร่วมกันจัดขึ้น ณ โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม จังหวัดนนทบุรี โดยกล่าวว่า กรมอนามัยมีโครงการยกระดับการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย เพราะพบว่าการออกกำลังกาย ลดปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs) ด้วยกันผลักดันแนวคิดเวชศาสตร์วิถีชีวิต กับพฤติกรรมครอบกลุ่ม 6 ด้าน เน้นปลูกฝั่งตั้งแต่เด็กให้เห็นว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ต้องทำในชีวิตประจำวัน หวังให้เด็กมีสุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไปในอนาคต เนื่องจากปัจจัยเด็กไทยเกิดน้อย จาก 800,000 คนต่อปี ลดเหลือ 450,000 คนต่อปีในปีที่ผ่านมาจึงต้องดูแลให้ดีที่สุด ซึ่งทั่วโลกใช้ความสูงเป็นตัวบ่งบอกสุขภาวะของคนในประเทศ โดยที่การกระโดดโลดเต้นเป็นรูปแบบหนึ่งที่ส่งเสริมให้กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง พร้อมช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง ส่งผลดีต่อเซลล์สมอง
แต่ปัจจุบันเด็กไทย มีพฤติกรรมเหนื่อยนิ่งเพิ่มขึ้นเฉลี่ยสูงสุด 14 ชั่วโมงต่อวัน ใช้เวลาส่วนใหญ่กับหน้าจอ ข้อมูลปี 2566 พบเด็กไทยมีกิจกรรมทางกายเพียงพอ เพียงร้อยละ 21.4 ต่ำกว่าเป้าหมายที่ ร้อยละ 40 อยู่มาก ภาคีเครือข่ายจึงร่วมกันรณรงค์ ให้สถานศึกษาเพิ่มวิชาพละศึกษา เพิ่มกิจกรรมทางกายระหว่างมาโรงเรียน ก่อนเข้าเรียนและระหว่างพัก ปรับการเรียนการสอนที่มีกิจกรรมกระตุ้นร่างกาย จัดส่งเสริม กิจกรรมทางกายด้วยแนวทาง 10-20-30 คือ จัดกิจกรรมออกกำลังกายหน้าเสาธง 10 นาทีทุกวัน สนับสนุนให้มีกิจกรรมกระโดด 20 นาที และส่งเสริมให้เด็กออกกำลังกายตามความชอบอีก 30 นาที
นอกจากการออกกำลังกายแล้ว ยังต้องกินอานุมีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ คู่กับการนอนหลับให้เพียงพอโดยเด็กควรนอนก่อน 21.00 น. ทุกวัน เพื่อให้ร่างกายหลั่ง Growth Hormone และควรเน้นพิเศษในช่วงอายุเด็กที่เหมาะต่อการส่งเสริมการเจริญเติบโตมากที่สุด คือในเด็กหญิง ช่วงอายุ 10-12 ปี ส่วนเด็กชาย ในช่วงอายุ 12-14 ปี