6 กุมภาพันธ์ “วันมวยไทย” ร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าเสือ “พระบิดาแห่งมวยไทย”

“มวยไทย” เป็นศิลปะการต่อสู้และการป้องกันตัวของชนชาติไทย เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมจากบรรพชนที่ได้รับการสืบทอดมาสู่ชนรุ่นปัจจุบัน เป็นศิลปะการต่อสู้และการป้องกันตัวที่ฝึกฝนให้ร่างกายใช้อวัยวะทุกส่วนเป็นอาวุธได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งมือ เท้า เข่า ศอก รวมถึงศีรษะ จึงเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ครบเครื่อง มีพิษสงรอบด้าน เกิดการถ่ายทอดและมีการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ได้รับความนิยมไปทั่ว ไม่เฉพาะในประเทศไทย แต่ยังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ถือเป็นกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก

ด้วยเหตุผลดังกล่าว กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงได้ประกาศขึ้นทะเบียน “มวยไทย” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ สาขากีฬาภูมิปัญญาไทย เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2553 เพื่อสร้างความตระหนักให้คนไทยเห็นคุณค่า หวงแหนและยกย่ององค์ความรู้ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย เพื่อให้มรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่านี้ได้รับการอนุรักษ์ สืบสานและต่อยอดเป็นพลังในการกระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างสรรค์เศรษฐกิจไทยให้มั่นคง

จากความสำคัญของมวยไทย กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยังได้ร่วมกับภาคเอกชน ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผลักดันให้มีการสถาปนา “วันมวยไทย” โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 เห็นชอบให้กำหนดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันมวยไทย ซึ่งตรงกับวันเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) พระมหากษัตริย์ไทยที่มีพระปรีชาสามารถด้านมวยไทยเป็นที่ประจักษ์ 

พระเจ้าเสือ เป็นพระมหากษัตริย์เพียงพระองค์เดียว ที่เสด็จออกไปชกมวยกับสามัญชน ทรงแต่งกายเป็นชาวบ้าน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นนักมวยจากเมืองกรุง ชาวบ้านให้ความสนใจมาก เนื่องจากสมัยนั้น นักมวยกรุงศรีอยุธยามีชื่อเสียงมาก ทำให้ได้คู่ชกเป็นนักมวยฝีมือดีจากเมืองวิเศษไชยชาญถึงสามคน ทยอยเข้ามาชกทีละคน ได้แก่ นายกลาง หมัดตาย , นายใหญ่ หมัดเหล็ก และนายเล็ก หมัดหนัก การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ด้วยต่างฝ่ายก็มีฝีมือ 

แต่ด้วยพระปรีชาสามารถและความชำนาญในศิลปะมวยไทย ที่ได้ทรงฝึกหัดและศึกษาจากสำนักมวยหลายสำนัก ทำให้พระองค์สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ติดต่อกันถึง ๓ คนได้ โดยที่คู่ต่อสู้ต่างได้รับความบอบช้ำเป็นอันมาก ทำให้ได้รับรางวัลเป็นเงินหนึ่งบาท ฝ่ายผู้แพ้ได้สองสลึง เหตุการณ์นี้จึงเป็นตำนานบทหนึ่งที่ทรงแสดงพระปรีชาสามารถการต่อสู้ด้วยมวยไทย

จากการที่พระเจ้าเสือทรงพระปรีชาสามารถด้านการชกมวย มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่า ทรงคิดและสร้างสรรค์ท่าแม่ไม้ กลมวยไทยขึ้นมาเป็นแบบเฉพาะพระองค์ เรียกว่า “มวยไทยตำรับพระเจ้าเสือ” จากที่มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นตำรามวยตำรับพระเจ้าเสือที่เก่าแก่ที่สุด เป็นมรดกทางภูมิปัญญาจากบรรพชนที่ได้รับการถ่ายทอดมาสู่ชนรุ่นหลังและสืบสานมาจนถึงทุกวันนี้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง