“อุตสาหกรรม” สั่งทลายโกดังสินค้าไร้ มอก. – “กรมศุลกากร” จับของหนีภาษีพุ่ง

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ชุดตรวจการสุดซอยกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม และนายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม (สมอ.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางปู (สภ.บางปู) จ.สมุทรปราการ เข้าตรวจสอบคลังสินค้าขนาดใหญ่ของ บริษัท วินไทย เทรดดิ้ง จำกัด ตั้งอยู่ใน ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังตรวจพบ การโฆษณาขายสินค้าไม่มีเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ผ่านช่องแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง จนสามารถขยายผลไปถึงคลังสินค้าดังกล่าวและตรวจยึดสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก. หลายรายการ อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ พาวเวอร์แบงค์ อะแดปเตอร์ ไดร์เป่าผม หม้อหุงข้าว หม้ออบลมร้อน ของเล่น หมวกกันน็อกและภาชนะพลาสติก เป็นต้น รวมมูลค่ากว่า 11.8 ล้านบาท

นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม เชื่อว่าการลักลอบจำหน่ายสินค้าไม่มีคุณภาพ และลักลอบนำเข้าสินค้าควบคุมที่ไม่มี มอก. มาหลอกขายประชาชนในราคาถูกเช่นนี้ต้องทำเป็นขบวนการ เบื้องต้นได้ทำการยึดและอายัดสินค้าที่ไม่มี มอก. ทั้งหมด ตามมาตรการปราบปรามสินค้าไม่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันอันตรายร้ายแรงที่อาจเกิดกับประชาชนผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นไฟช็อต หรือไฟไหม้จากเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงสารปนเปื้อนในของเล่นและภาชนะพลาสติก นอกจากนี้ ขบวนการนี้ยังมีพฤติกรรมนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานลักลอบจำหน่ายในราคาถูก เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้ประกอบการไทยที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐานและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องด้วย

สำหรับบริษัท วินไทย เทรดดิ้ง จำกัด เคยถูกตรวจสอบและยึดอายัดสินค้าไม่ได้มาตรฐานมาแล้ว 1ครั้ง เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 68 แต่ยังคงฝ่าฝืนกฎหมาย โดยมีการทำลายแถบป้ายยึดอายัดของ สมอ. และนำสินค้าออกจำหน่ายทางแพลตฟอร์มออนไลน์ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาร้ายแรง อุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) สมุทรปราการและตำรวจ สภ.บางปู จึงได้สั่งหยุดการบรรจุและส่งสินค้า พร้อมยึดอายัดสินค้าที่ไม่มี มอก.ในคลังสินค้าไว้ทั้งหมด โดย บริษัท วินไทย เทรดดิ้ง จำกัด ได้จดทะเบียนนิติบุคคลเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ระบุชื่อ นายตง เริ่น สัญชาติจีน เป็นกรรมการบริษัท โดยบริษัทฯ ทำหน้าที่เป็นทั้งคลังเก็บสินค้าและเป็นผู้จำหน่ายเองด้วย จึงมีความผิดฐานจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดฐานทำลายของกลาง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท ความผิดฐานทำลายแถบป้ายยึดอายัด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รัฐบาล โดยกรมศุลกากร รายงานผลการจับกุมสินค้าผิดกฎหมายในช่วง 4 เดือนแรกของปี งบประมาณ 2568 (ต.ค. 67 – ม.ค. 68) รวมมูลค่ากว่า 780 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 25% สาเหตุหลักมาจากมาตรการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้นตามนโยบายรัฐบาล โดยในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา กรมศุลกากรสามารถตรวจยึดสินค้าผิดกฎหมายได้หลายรายการ ได้แก่ บุหรี่ต่างประเทศ จับกุม 667 คดี ปริมาณ 17.39 ล้านมวน มูลค่า 90.32 ล้านบาท บุหรี่ไฟฟ้า จับกุม 234 คดี มูลค่า 28.95 ล้านบาท ยาเสพติด จับกุม 85 คดี คิดเป็นมูลค่ามากที่สุดถึง 637.10 ล้านบาท ช่อดอกกัญชา จับกุม 361 คดี มูลค่า 24.75 ล้านบาท ของอุปโภคที่ไม่ผ่านศุลกากร เช่น โลชั่นบำรุงผิวและทิชชูเปียก รวม 300,000 ชิ้น มูลค่า 7 ล้านบาท ขยะอิเล็กทรอนิกส์ จับกุม 19 คดี น้ำหนัก 256.64 ตัน และเศษพลาสติก 8 คดี น้ำหนัก 367.20 ตัน เครื่องเล่นเกม (ตู้คีบตุ๊กตา) ถูกลักลอบนำเข้าแบบแยกชิ้นส่วน 132 ตู้ มูลค่า 1.6 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง