ดีอี รุกตัดตอน “โจรออนไลน์” ออกมาตรการสกัดกั้น “บัญชีม้า-สัญญาณเน็ต” ชายแดนไทย-เมียนมา

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า จากกรณีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติให้ตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ตและการส่งออกน้ำมัน ในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา รวม 5 จุด ซึ่งต้องสงสัยว่าอาจเป็นฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไปนั้น กระทรวงดีอีได้ติดตามความคืบหน้าของมาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดีอี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC) ร่วมเดินทางพร้อมกับคณะนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อประชุมหารือติดตามการปฏิบัติงานการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ณ อ.แม่สอด จ.ตาก

จากการหารือร่วมระหว่างกระทรวงดีอี และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ตรวจพบว่า มีการลักลอบปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดนไปยังพื้นที่ต้องสงสัย ดังนั้นที่ประชุมจึงได้ร่วมกำหนดมาตรการการป้องกัน ดังนี้

1. เพิ่มการตรวจสอบ เฝ้าระวังและสกัดปิดกั้นสัญญาณอย่างเข้มข้น โดยปิดกั้นสัญญาณอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. ทั้งหมด รวมทั้งการตัดกระแสไฟฟ้าตู้กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตในจุดที่มีความเสี่ยงการส่งสัญญาณไปยังพื้นที่ต้องสงสัย และมอบหมายให้ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ตรวจสอบสัญญาณอินเทอร์เน็ตในความดูแลอย่างเข้มงวด

2. ตรวจสอบและระงับการใช้งาน Mobile Banking ที่ขึ้นบัญชีต้องสงสัยว่าเป็นบัญชีม้า ในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาทันที ซึ่งจะมีการตรวจสอบสัญญาณจาก IP Address ที่มีการใช้งานในพื้นที่ โดยกระบวนการนี้จะแบ่งเป็นการร่วมกันตรวจสอบโดย ศูนย์ AOC สำนักงาน กสทช. และธนาคาร จากการแจ้งเบาะแสของประชาชน ผ่านศูนย์ AOC – ตำรวจ ก่อนส่งเรื่องให้กับธนาคาร สำนักงาน กสทช. ตรวจสอบและดำเนินการระงับสัญญาณและบัญชีธนาคารต่อไป

นายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดีอีไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องดังกล่าว โดยได้มีการทำงานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อเกิดสถานการณ์บริเวณชายแดน ได้มอบหมายให้ ผอ.ศูนย์ AOC พร้อมกับ เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวโดยตรงลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติงานทันที สำหรับปัญหาที่พบในระหว่างปฏิบัติการตัดไฟฟ้าและสัญญาณอินเทอร์เน็ตบริเวณพื้นที่คือ การคำนึงถึงเรื่องของมนุษยธรรม เนื่องจากระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่นอกจากจะมีการเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ต้องสงสัยว่าเป็นฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว ยังได้เชื่อมต่อไปยังชุมชน โรงพยาบาลและโรงเรียนอีกด้วย ซึ่งเป็นผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน”

อย่างไรก็ตาม การป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถือเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล  โดยกระทรวงดีอี ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นี้ ได้มีการบรรจุวาระการติดตามความคืบหน้า และมาตรการการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเป็นพิเศษ ทั้งนี้ หากประชาชนถูกหลอกลวงทางออนไลน์ โทรแจ้งดำเนินการ ระงับ อายัดบัญชี ได้ที่ AOC 1441

ข่าวที่เกี่ยวข้อง