ฟื้นฟูบ่อกุ้งร้าง  22 จังหวัดชายฝั่งทะเล สร้างทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจนำร่อง 5 ชนิด

นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลเป็นหนึ่งในภาคการเกษตรที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ในปัจจุบันสถานการณ์ราคากุ้งทะเลตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกษตรกรประสบปัญหาขาดทุนและเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญและมุ่งเน้นให้เร่งขับเคลื่อนการพัฒนาอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามแนวคิด “เกษตรกรต้องอยู่ดี สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ทรัพยากรเกษตรยั่งยืน

กรมประมง สนับสนุนให้ฟื้นฟูบ่อกุ้งร้าง ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเล 22 จังหวัดทั่วประเทศ ด้วยแนวคิดการปรับเปลี่ยนอาชีพสู่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดตามศักยภาพและความเหมาะสมของพื้นที่จำนวน 5 ชนิด ประกอบด้วย ปูทะเลเป็นสัตว์น้ำมีราคาจำหน่ายสูงถึงกิโลกรัมละ 200 – 500 บาท ตลาดมีความต้องการสูงและใช้เงินลงทุนในการเพาะเลี้ยงไม่มากและยังสามารถพัฒนาการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าและขยายช่องทางการจำหน่ายได้อย่างกว้างขวาง ปลิงขาว เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่ของไทย มีศักยภาพในการเลี้ยงได้ในบ่อดิน โดยปลิงทะเลสด ขนาดน้ำหนัก 400 – 500 กรัม/ตัว ราคา 500 บาท/กิโลกรัม ส่วนปลิงทะเลตากแห้งมีราคาจำหน่ายสูงถึง 1,000 – 7,000 บาท/กิโลกรัม เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ  ปลากะพงแดง เป็นปลาที่มีรสชาติดีได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและตอบสนองความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี ส่วนปลากระบอกดำ เป็นปลาเนื้อขาวที่มีรสชาติดีและได้รับความนิยมนำมาบริโภคในหลากหลายเมนู ราคาจำหน่าย 150 – 200 บาท/กิโลกรัม และหอยแครง มีตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการนิยมรับประทานจากร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยวด้วย

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง กรมประมง ประสบความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์และพร้อมที่จะขยายผลไปสู่เกษตรกรด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี ควบคู่กับการควบคุมต้นทุนผลผลิตรวมถึงการใช้แนวทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้แก่เกษตรกรที่สนใจในการปรับเปลี่ยนอาชีพในพื้นที่ เชื่อมั่นจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมประมงไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป สำหรับเกษตรกรที่สนใจ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง กรมประมง เบอร์โทรศัพท์ 02 579 2422

ข่าวที่เกี่ยวข้อง