นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการการใช้งานระบบสำหรับประสานงานการตรวจสอบข่าวปลอมและสร้างเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาข่าวปลอมทั้ง 5 กลุ่มข่าวและกลุ่มนิติกร พร้อมมอบโล่รางวัล “พันธมิตรยอดเยี่ยมแห่งปี 2024” ให้แก่หน่วยงานร่วมบูรณาการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข่าวสารในช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา โดยมีนางสาวยุพาภรณ์ ศิริกิจพาณิชย์กูล ผู้ช่วยปลัดกระทรวงดีอี และผู้แทนจากหน่วยงานเครือข่ายผู้ประสานงานฯ เข้าร่วม ณ โรงแรม เซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์
นายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดีอี ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti Fake News Center: AFNC) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 โดยมีเป้าหมายหลักคือ แก้ไขและป้องกันปัญหาข่าวปลอมที่มีผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะข่าวปลอมเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบอย่างรวดเร็วทันท่วงที ก่อนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ผ่านความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชน รวมถึงสื่อมวลชน บูรณาการทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายผู้ประสานงานกว่า 300 หน่วยงาน ที่ทำการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข่าวสาร
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ แบ่งข่าวสารที่มีผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง เป็น 5 กลุ่มข่าว ได้แก่ เรื่องนโยบายรัฐบาล ความสงบเรียบร้อยของสังคม และความมั่นคงภายในประเทศ เรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องภัยพิบัติ และอาชญากรรมออนไลน์
สำหรับปัจจุบันมีประชาชนติดตามและตรวจสอบข้อมูลข่าวสารของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
1) Website : www.antifakenewscenter.com จำนวน 27,898,089 ผู้รับชม
2) Line Official Account : @antifakenewscenter จำนวน 2,791,452 ผู้ติดตาม
3) Facebook : Anti-Fake News Center Thailand จำนวน 120,515 ผู้ติดตาม
4) Twitter : @AFNCThailand จำนวน 18,313 ผู้ติดตาม
5) TikTok: @AFNC_Thailand จำนวน 1,874 ผู้ติดตาม
6) Instagram: @AFNC_Thailand จำนวน 1,010 ผู้ติดตาม
กระทรวงดีอี โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ ให้ความสำคัญในการสร้างความเข้าใจและประสานงานร่วมกันของหน่วยงานพันธมิตร เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องอย่างทันท่วงทีแก่ประชาชน ผ่านกระบวนการตรวจสอบข้อมูลอย่างรัดกุม โดยในอนาคตจะมีการนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาช่วยในการตรวจสอบข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน และข่าวจริง และเร่งผลักดันให้เกิด Impact สูงสุด ในการเผยแพร่การแจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางออนไลน์ หรืออาชญากรรมออนไลน์ ในรูปแบบต่างๆ ให้ทันต่อสถานการณ์อยู่เสมอ ซึ่งจะนำไปสู่การลดความสูญเสียของประชาชนในการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชน