นายกฯ ตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย “บริหารจัดการน้ำ-ผลิตอาหารทะเล-ส่งเสริมการท่องเที่ยว”

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มทะเลสาบสงขลา ณ บริเวณจุดชมวิวทะเลน้อย ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรีได้ป้อนหญ้าให้กับครอบครัวควายน้ำทะเลน้อย “สุชาติ บัวตอง และทองกวาว” พร้อมชื่นชมความน่ารักและสอบถามเรื่องพืชที่ใช้เป็นอาหารของควาย และแนวทางในการกำจัดวัชพืชที่เป็นปัญหาทำให้พื้นที่ตื้นเขิน โดยเห็นว่าควรนำวัชพืช ขึ้นมาทำปุ๋ยและนำมาถมพื้นที่บางส่วนเพื่อให้พื้นดินสูงขึ้น และยังให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลพร้อมพัฒนาและจะแก้ไขปัญหาโดยไม่เลือกพื้นที่

ก่อนที่จะร่วมถ่ายภาพกับคณะส่วนราชการที่ลงพื้นที่เป็นที่ระลึกและเดินชมบูธนิทรรศการ “เที่ยวชุมชน ยลวิถีบ้านทะเลน้อย” ซึ่งเป็นสินค้าวิถีชุมชนขึ้นชื่อของพัทลุง เช่น ลูกปัด ปลาดุกร้า เป็นต้น

จากนั้น ได้พบปะประชาชน กล่าวขอบคุณที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ มีรัฐมนตรีหลายท่านกระจายอยู่ในจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ และในวันที่ 18 ก.พ. จะประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมกัน        มาวันนี้รัฐมนตรีได้ทำการบ้านเกี่ยวกับอุปสรรคปัญหาที่พี่น้องพัทลุงประสบอยู่ และดีใจที่ได้รับฟังสรุปปัญหา ที่แท้จริงของประชาชนเพราะอย่างที่พูดเสมอว่าคนในพื้นที่รู้ปัญหาของตัวเองดีที่สุด ฉะนั้น ต้องขอบคุณที่บอกปัญหาที่เกิดและบอกว่าสิ่งใดจะเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน เพราะหากประชาชนรวย รัฐบาลก็แข็งแรง ประเทศก็แข็งแรงไปด้วย ดังนั้นความอยู่ดีกินดีของประชาชนเป็นส่วนสำคัญที่สุดของรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำ ขอบคุณที่ยังนึกถึงอดีตนายกรัฐมนตรีนายทักษิณ ที่เคยมาและสร้างประโยชน์ไว้และขอบคุณรัฐบาลสมัยของท่านที่มีส่วนร่วมและส่วนผลักดัน สำหรับตนจะเต็มที่และจะกลับไปทำการบ้านเพิ่มเติม ไม่อยากแก้ปัญหาทีละปี อยากทำให้ปัญหาหมดไปและอยากให้ประชาชนกินอิ่มนอนหลับขอให้รักษาสุขภาพ รัฐบาลจะช่วยพี่น้องอย่างเต็มที่ รัฐมนตรีทุกคนที่มาให้ความสำคัญกับจังหวัดพัทลุงด้วยความเป็นห่วง ขอให้มีกำลังใจในการประกอบอาชีพต่อไป

จากนั้นร่วมรับชมการแสดงมโนราห์ และรับชมวิดีทัศน์เกี่ยวกับการดำเนินงานบริหารจัดการน้ำทะเลสาบสงขลาและการพัฒนาพื้นที่

  • โดยมีการสร้างสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ (สะพานเอกชัย) เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เพื่อข้ามทะเลสาบเชื่อมการเดินทางระหว่าง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ อ.ระโนด จ.สงขลา สร้างสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร สนับสนุนงบประมาณ 700 ล้านบาท เมื่อปี 2547 เชื่อมเส้นทางให้ประชาชนเดินทางสัญจรได้สะดวก
  • พื้นที่ทะเลน้อย เป็นพื้นที่เชิงนิเวศและเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เนื่องจากเป็นที่อยู่อาศัยของนกประจำถิ่น และนกอพยพ โดยมีเนื้อที่ประมาณ 285,625 ไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา มีลักษณะเด่นที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นที่อยู่อาศัยของนกประจำถิ่นและนกอพยพ มากกว่า 223 ชนิด และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอีก 9 ชนิด ทำให้พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาได้รับการประกาศ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลก (Ramsar Site) แห่งแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2541

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน ซีฟู้ด จำกัด ต.วัดขนุน อ.สิงหนคร จ.สงขลา โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายวีระพงษ์ ประภา ผู้แทนการค้าไทย และส่วนราชการในพื้นที่เข้าร่วมและรับฟังกระบวนการผลิตและการส่งออกอาหารทะเล จากประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ซีฟู้ด จำกัด  ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกกุ้งแช่แข็งชั้นนำของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2539 มีฐานการผลิตหลักใน จ.สมุทรสาคร ก่อนขยายกิจการมายังสงขลา ผลิตภัณฑ์ครอบคลุมอาหารทะเลกระป๋อง อาหารทะเลแช่แข็ง และอาหารทะเลแปรรูป โดยดำเนินธุรกิจในรูปแบบผู้รับจ้างผลิต (OEM : Original Equipment Manufacturer ) และผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเอง โดยตลาดหลักอยู่ในสหรัฐอเมริกา ยุโรปและเอเชีย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าพร้อมให้การสนับสนุน โดยเฉพาะหากบริษัทฯ มีแนวทางในการทำโครงการเพื่อสังคม (CSR) หรือโครงการที่สนับสนุนภูมิปัญญาของเกษตรกร อาทิ การถ่ายทอดองค์ความรู้หรือเทคนิคต่างๆ ที่ช่วยพัฒนาการประกอบอาชีพ รัฐบาลก็พร้อมสนับสนุนแนวทาง ส่วนการเจรจาในข้อตกลงทางการค้าที่รัฐบาลไทยได้เริ่มทำกับสหภาพยุโรปหลายประเทศแล้วนั้น จะเร่งพูดคุยและประสานทั้งในสหภาพยุโรปและในทวีปอื่นๆ เพื่อสนับสนุนสินค้าของไทยให้ค้าขายได้ง่ายขึ้น

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ย่านเมืองเก่าสงขลา อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา เยี่ยมชมชุมชนเมืองเก่าสงขลาและพูดคุยประเด็นการส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด โดยมี นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา นายสมพล ชีววัฒนาพงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ผู้บริหารส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และผู้บริหารส่วนท้องถิ่นเข้าร่วม

นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับฟังบรรยายสรุปและข้อเสนอการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวจากผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้บอกถึงปัญหาอุปสรรคต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก

  • การท่องเที่ยว จ.สงขลา ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมาก จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลพร้อมผลักดันให้จังหวัดเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลและพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับจังหวัดอื่นๆ เช่น เดียวกับ จ.ภูเก็ต เพื่อกระจายรายได้สู่ภูมิภาค โดยรัฐบาลตั้งใจจะทำให้ทุกจังหวัดของประเทศไทยมีโอกาสพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ การพัฒนาเขตเมืองเก่าใน จ.สงขลา มีแนวคิดว่าจะประสานงานกับท้องถิ่นเพื่อสร้างกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เขตเมืองเก่าที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดมีแสงสีเสียงเป็นจุดที่น่าท่องเที่ยวให้มากขึ้น ขณะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จะพิจารณาปรับปรุงแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการประกาศให้เป็นเขตน่าท่องเที่ยวต่อไปในเร็วนี้
  • รัฐบาลจะเดินหน้าเร่งแก้ไขกฎหมายล้าสมัยไม่ทันต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ หรือกฎหมายที่เกิดความทับซ้อนเป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว รัฐบาลพร้อมรับฟังและพร้อมจะเร่งดำเนินการแก้ไข โดยขอให้หน่วยงานท้องถิ่นช่วยเสนอแนวทางปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น
  • การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่ เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น เส้นทางคมนาคม ไฟส่องสว่างในพื้นที่ท่องเที่ยว และระบบแจ้งเตือนภัยเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามความเหมาะสม

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลจะติดตามและผลักดันแนวทางการพัฒนาให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อให้ จ.สงขลา ก้าวสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญในกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวไฮเอนด์ พร้อมย้ำรัฐบาลจะพัฒนาทุกๆ จังหวัดของประเทศไทยให้เป็นจังหวัดที่น่าเที่ยวติดอันดับของโลก และจะเร่งผลักดันทุกมิติ ไปพร้อมๆ กับภาคประชาชน เพื่อให้มีชุมชนที่เข้มแข็ง โดยเชื่อว่าจะสามารถพัฒนาได้ง่ายขึ้น

จากนั้น เดินเยี่ยมชมชุมชนย่านเมืองเก่า พร้อมรับชมชุดการแสดงสีสันสงขลาผ่านกาลเวลา รำมโนราห์ และเยี่ยมชมบ้านนครใน ซึ่งเป็นบ้านโบราณ บ้านสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ถือเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองสงขลาที่ได้เก็บรวบรวมรูปภาพทางประวัติศาสตร์ ระหว่างเดินเยี่ยมชมประชาชนในพื้นที่รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมมอบดอกกุหลาบสีแดง และขนมทองเอกให้นายกรัฐมนตรี ก่อนเข้าไหว้สักการะ “ศาลเจ้าพ่อ หลักเมืองสงขลา” เฉิงหวงเมี่ยว หรือเส่งห่องเข่ว สถานที่สำคัญของเมืองสงขลา เพื่อความเป็นสิริมงคล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง