กระชับสัมพันธ์ไทย-ลาว 75 ปี สร้างความมั่นคงพื้นที่ชายแดน

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนายกรัฐมนตรีเชิญนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ไปยังห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อแนะนำคณะรัฐมนตรี จากนั้นไปยังห้องสีงาช้างด้านนอก เพื่อลงนามในสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึกที่ทั้งสองฝ่ายมอบให้แก่กัน ก่อนหารือกลุ่มเล็กในห้องสีงาช้างด้านใน โดยทั้งสองฝ่ายร่วมหารือข้อราชการเต็มคณะ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในนามรัฐบาลและประชาชนไทย ยินดีที่ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว และคณะ ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่ง สปป. ลาว เป็นประเทศแรกที่นายกรัฐมนตรีได้เยือนอย่างเป็นทางการภายหลังเข้ารับตำแหน่ง พร้อมทั้งเป็นการเริ่มต้นการฉลองครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ในปีนี้ด้วย ซึ่งต่างเห็นพ้องที่จะเร่งขับเคลื่อนความร่วมมือไทย – ลาว ให้เจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน และส่งเสริมความกินดี อยู่ดี ของประชาชนใน 3 ด้านหลัก ได้แก่

1. เสริมสร้างให้พื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศมีความมั่นคง

ด้านยาเสพติด ทั้งสองฝ่ายต่างมองเห็นถึงความสำคัญในการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะการทำงานร่วมกันของหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทย-ลาว ที่จะเพิ่มความเข้มข้นของความร่วมมือ ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติของทั้งสองประเทศ สนับสนุนการแลกเปลี่ยนข่าวสารและขยายผลการสืบสวนสอบสวนของชุดปฏิบัติการและคณะทำงานร่วม และส่งเสริมความร่วมมือในระดับท้องถิ่นและระดับหมู่บ้าน นอกจากนี้ ยังเห็นพ้องการสนับสนุนการพัฒนาทางเลือกเพื่อปลูกพืชทดแทนยาเสพติด ซึ่งไทยได้เริ่มดำเนินการแล้วที่แขวงหัวพันและแขวงบ่อแก้ว

ด้านขบวนการคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง ไทยและสปป.ลาว ต่างเน้นย้ำถึงความสำคัญอย่างยิ่งกับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กระทบต่อความมั่นคงและประชาชนของทั้งสองประเทศ ต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยถือเป็นปัญหาร่วมกันในภูมิภาค ซึ่งไทยได้เสนอให้ใช้ประโยชน์จากกรอบแม่โขง-ล้านช้าง ที่ไทยเป็นประธานในปีนี้ เพื่อผลักดันความร่วมมืออย่างจริงจังในภูมิภาค พร้อมชื่นชมรัฐบาล สปป. ลาว ที่ได้ดำเนินการปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายไทยพร้อมสนับสนุน สปป. ลาว ในการขยายผลการปราบปรามและการสอบสวนเพื่อเอาผิดกับผู้อยู่เบื้องหลัง ผ่านศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย

ด้านหมอกควันข้ามแดน จะผลักดันให้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดตั้งห้องปฏิบัติการเพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันเพิ่มเติม และการขยายผลโครงการนำร่องการจัดทำแนวกันไฟลดการเผาคู่ขนานในพื้นที่สองประเทศ นอกจากนี้ ฝ่ายไทยเสนอเชื่อมโยงฐานข้อมูล (database) และระบบเตือนภัยล่วงหน้า (early warning) ของ สปป. ลาว เข้ากับระบบของ GISTDA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาด้วย

ด้านการแก้ไขปัญหาอุทกภัย นายกรัฐมนตรียินดีที่ระบบโทรมาตรที่ไทยสนับสนุนการติดตั้ง มีส่วนช่วยการแจ้งเตือนระดับน้ำใน สปป. ลาว โดยไทยพร้อมสนับสนุนการติดตั้งระบบโทรมาตรใน สปป. ลาว เพิ่มเติม โดยเฉพาะในลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขงและการเชื่อมโยงเครือข่ายโทรมาตรต่างๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพของระบบแจ้งเตือนและการบริหารจัดการน้ำ

2. สร้างการเจริญเติบโตและความมั่งคั่งร่วมกัน

ด้านการค้า เห็นพ้องที่จะบรรลุเป้าหมายการค้าทวิภาคีที่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570 โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ที่ได้ช่วยติดตามและอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าเกษตรของไทยผ่านแดนไปจีน ทั้งการเพิ่มจำนวนขบวนรถไฟขนส่งผลไม้และการเพิ่มช่องตรวจปล่อยสินค้าบริเวณจุดผ่านแดนลาว-จีน นอกจากนี้ จะร่วมมือกันในการลดการเผาในอุตสาหกรรมการเกษตรที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนทั้งสองประเทศ

ด้านการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ หลายโครงการมีความคืบหน้า ทั้งการเสริมกำลังสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 และการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ที่จะพร้อมเปิดใช้งานในปลายปีนี้ รวมทั้งเห็นพ้องที่จะร่วมกันจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และพร้อมสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ให้มีความก้าวหน้า ได้แก่ โครงการก่อสร้างสะพานรถไฟแห่งใหม่ที่จังหวัดหนองคาย โครงการเชื่อมต่อรถไฟไทย-ลาว กับระบบรถไฟลาว-จีน และการเชื่อมต่อระบบรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กับระบบรถไฟลาว-จีน นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้มีกิจการร่วมค้า หรือ (Joint Venture) ระหว่างภาคเอกชนไทย-ลาว เพื่อบริหารจัดการการขนส่งและโลจิสติกส์ในภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Thai-Lao Business Forum ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ภาคเอกชนไทย-ลาว ได้พูดคุยกันถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้

3. สร้างเสริมสายสัมพันธ์พิเศษระดับประชาชน ไทยและ สปป. ลาว มีความสัมพันธ์ที่ดีและยาวนาน และประชาชนสองฝั่งมีความผูกพันเป็นดั่งเครือญาติ ซึ่งในโอกาสครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ทั้งสองฝ่ายจะจัดกิจกรรมกว่า 20 โครงการตลอดปี เพื่อฉลองวาระพิเศษนี้ โดยไทยพร้อมมอบทุนการศึกษาจำนวนกว่า 75 ทุน ให้แก่ สปป.ลาว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันยาวนานและช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเยาวชนของ สปป. ลาว นอกจากนี้ ยังพร้อมสนับสนุน สปป. ลาว อย่างต่อเนื่องต่อไปทั้งในด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรด้านการแพทย์และการสนับสนุนเซรุ่มแก้พิษงู และด้านการเกษตร ผ่านโครงการ       ในพระราชดำริต่างๆ ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนลาว

ส่วนความร่วมมือระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับความสำเร็จของ สปป.ลาว ในการทำหน้าที่ประธานอาเซียนเมื่อปีที่แล้ว และสนับสนุนให้ทั้งสองประเทศร่วมมือกันในกรอบอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและอาเซียน นอกจากนี้ ยังเชิญนายกรัฐมนตรีลาวเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC Summit) ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปลายปีนี้ 

นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว กล่าวแสดงความรู้สึกยินดีที่จะได้ร่วมเปิดตัวตราสัญลักษณ์เฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาวครบ 75 ปี ร่วมกับนายกรัฐมนตรีหลังจากนี้ รวมถึงขอบคุณรัฐบาลไทยที่ส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเยาวชน ให้แก่ สปป. ลาว นอกจากนี้ยังยินดีที่มีนักธุรกิจไทยและนักท่องเที่ยวไทยมีการลงทุนและเดินทางในประเทศลาวจำนวนมาก โดย สปป. ลาว พร้อมยินดีดูแลนักท่องเที่ยวไทยและนักลงทุนไทยพร้อมหวังว่าไทยจะดูแลนักท่องเที่ยวลาว รวมถึงแรงงานลาวในไทยเช่นกัน

นายกรัฐมนตรีไทย และนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามและการแลกเปลี่ยนความตกลงร่วมกัน จำนวน 4 ฉบับ ดังนี้

1. แผนดำเนินการ พ.ศ. 2568 – พ.ศ. 2570 เพื่อดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านกิจการยุติธรรมและกฎหมายระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Plan of Action For 2025 – 2027 To Implement The Memorandum of Understanding on Justice And Legal Affairs Cooperation Between The Ministry of Justice of The Lao People’s Democratic Republic And The Ministry of Justice of The Kingdom of Thailand)

2. บันทึกการดำเนินการด้านเทคนิคสำหรับการขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยกับรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว (Technical Arrangement on Rail Passenger Transportation between the State Railway of Thailand and the Lao National Railway State Enterprise)

3. บันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ราชอาณาจักรไทย และมหาวิทยาลัยสุภานุวงศ์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Memorandum of Understanding on Academic Cooperation between Mae Fah Luang University of the Kingdom of Thailand and Souphanouvong University of The Lao People’s Democratic Republic)

4. บันทึกความเข้าใจระหว่างคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน กับสภาการค้า และอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว (Memorandum Of Understanding Between The Joint Standing Committee On Commerce, Industry And Banking Of Thailand (Jsccib) And Lao National Chamber Of Commerce And Industry (Lncci))

สำหรับตราสัญลักษณ์เฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ครบ 75 ปี (75th Anniversary Thailand-Laos Diplomatic Relations) โดยออกแบบในโทนสีเหลืองทอง ด้านบนเป็นรูปจั่วทรงไทย-ลาว 2 ชั้น ประกอบด้วยวัดพระธาตุศรีสองรักและวัดพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ โดยมีตัวเลข 75 อยู่ตรงกลางพร้อมด้วยดอกราชพฤกษ์ไทยและดอกจำปาลาว ล้อมรอบด้วยธงชาติของทั้งสองประเทศที่จัดวางเป็นรูปหัวใจ ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ไทยและ สปป. ลาว เป็นเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นและมีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างแยกจากกันไม่ได้ ซึ่งในวาระพิเศษที่ทั้งสองประเทศกำลังฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปี ของความสัมพันธ์ฯ นายกรัฐมนตรียินดีและมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ในการส่งเสริมให้ประชาชนไทย-ลาว มีความกินดี อยู่ดี และมีสุข รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เป็น “สายพัวพัน
ที่ยั่งยืน” ในอีก 75 ปีข้างหน้าต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง