นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ส่วนตัว ระบุว่า “รัฐบาลอยู่ข้างชาวนาและพี่น้องเกษตรกรมาโดยตลอด เราพร้อมรับฟังและจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด ได้เชิญนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าพบหารือเรื่องราคาข้าวและสินค้าเกษตร เร่งแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยส่วนหนึ่งคือการแก้ปัญหาการปลูกข้าวพันธุ์ที่ไม่ได้รับการรับรอง ทำให้ข้าวไม่ได้คุณภาพและราคาต่ำกว่าปกติ ส่งผลต่อราคาข้าวในภาพรวม จึงได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯเร่งพัฒนาพันธุ์ข้าวและแจกจ่ายแก่พี่น้องเกษตรกรให้เพียงพอ ส่วนมาตรการระยะสั้นเรื่องการพยุงราคาข้าวที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) จะออกมาตรการที่ชัดเจน นำเข้าสู่ ครม.เพื่ออนุมัติต่อไป ขอให้พี่น้องชาวนาและเกษตรกรมั่นใจว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหานี้และจะมีมาตรการออกไปโดยเร็วที่สุด
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวภายหลังเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเรื่องราคาสินค้าเกษตรและราคาข้าว โดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีข้อมูลด้านการผลิตให้ประสานงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เพื่อทำงานร่วมกัน แต่ในคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) จะมีอนุกรรมการอยู่ 2 คณะ โดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นประธานอนุกรรมการดูแลเรื่องการตลาด ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานอนุกรรมการฝ่ายผลิตดูเรื่องของผลผลิต และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ทั้งปริมาณข้าว พันธุ์ข้าว และวิธีการที่กระทรวงพาณิชย์นำเสนอ จากนั้นคณะอนุกรรมการจะนำมติการประชุมเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ นบข. ก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด เพื่อพิจารณามาตรการแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกนาปรังตกต่ำ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากอินเดียกลับมาส่งออกข้าว ที่ประชุมได้มีมตินำเสนอมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2568 จำนวน 3 มาตรการหลัก ใช้งบประมาณรวม 1,893.53 ล้านบาท ซึ่งจะนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) พิจารณาอนุมัติในสัปดาห์หน้า ประกอบด้วย
- มาตรการที่ 1 สินเชื่อชะลอนาปรัง ช่วยค่าฝากเก็บ 1,500 บาทต่อตัน ต้องเก็บข้าวไว้ 1-5 เดือน เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน
- มาตรการที่ 2 ชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการโรงสี ในอัตราร้อยละ 6 ต้องเก็บสต๊อกไว้ 2-6 เดือน และต้องซื้อข้าวสูงกว่าราคาตลาด 200 บาทต่อตันขึ้นไป เป้าหมาย 2 ล้านตัน
- มาตรการที่ 3 เปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือก โดยรัฐสนับสนุนค่าบริหารจัดการ 500 บาทต่อตัน และผู้ประกอบการต้องรับซื้อข้าวสูงกว่าตลาด 300 บาทต่อตัน เป้าหมาย 3 แสนตัน
นอกจากนี้ ได้มีมาตรการที่ดำเนินการควบคู่ โดยจะได้ร่วมมือกับห้างค้าปลีก โมเดิร์นเทรด ห้างท้องถิ่น จัดจุดจำหน่ายราคาไม่เกิน 100 บาทเพื่อกระตุ้นการบริโภค เป้าหมาย 5 แสนตัน และมาตรการส่งเสริมการส่งออกข้าวไทย โดยขอความร่วมมือ EXIM Bank จัดสินเชื่อพิเศษให้ผู้ส่งออกข้าวในอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง สำหรับข้อเสนอของเกษตรกร เรียกร้องให้พิจารณามาตรการช่วยค่าบริหารจัดการไม่เผาฟาง 500 บาท ต่อไร่ ที่ประชุมได้มอบหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำรายละเอียดโครงการเพื่อช่วยเหลือต้นทุนการผลิตอันเนื่องมาจากการห้ามเกษตรกรเผาฟางและตอซังข้าว ก่อนนำเสนอ นบข. เพื่อพิจารณา และนำเสนอ ครม. ตามระเบียบต่อไป
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ราคาข้าวและเร่งดำเนินการออกมาตรการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรจากปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำในช่วงผลผลิตข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2568 ออกสู่ตลาดมาก
- ดำเนินการจัดตลาดนัดข้าวเปลือกปีการผลิต 2567/68 ตั้งแต่ ก.พ. – เม.ย. ปี 68 เพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายข้าวได้ในราคาที่สูงขึ้นเป็นการเพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรและสร้างอำนาจต่อรองในการกระจายข้าวเปลือกมากขึ้น โดยจัดตลาดนัดข้าวเปลือก 14 ครั้ง เพื่อดึงราคาข้าวเปลือกให้สูงขึ้น ในพื้นที่เป้าหมาย 8 จังหวัดคือ อ่างทอง สุรินทร์ สิงห์บุรี พิษณุโลก สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา อุบลราชธานี และนครราชสีมา ตั้งเป้าว่าโครงการตลาดนัดข้าวเปลือกจะช่วยดันราคาขายข้าวของเกษตรกรให้ปรับเพิ่มขึ้นได้
- (18 ก.พ. 68) ประชุมหารือความร่วมมือผู้ประกอบการข้าวสารบรรจุถุง ห้างค้าส่งค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ห้างท้องถิ่นและแพลตฟอร์ม จำนวน 15 ราย ในการร่วมกันดูดซับ Supply ข้าวเพื่อนำมาบรรจุถุง และประชาสัมพันธ์รณรงค์กระตุ้นการบริโภคข้าวสารบรรจุถุง ชนิดข้าวขาว 5% โดยทำพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรอีกทางหนึ่ง
- ร่วมมือกับผู้ประกอบการค้าข้าวรายสำคัญในการวางแผนดูดซับข้าวนาปรังในการพยุงราคาข้าวที่กำลังออกสู่ตลาดในช่วงปลายเดือนนี้ โดยจะติดตามสถานการณ์ราคาข้าวอย่างใกล้ชิด และหาแนวทางพร้อมดำเนินการมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเกษตรกรให้ได้มากที่สุด