การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (27 ก.พ.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มาตอบกระทู้ถามสดเป็นครั้งแรกถึงปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติ ที่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นผู้ตั้งถาม โดยนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เมื่อเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที เช่น กะรทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ธนาคารแห่งประเทศไทย กสทช. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้บูรณาการการทำงานเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันและประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อร่วมกันหาทางออก อีกทั้งที่ผ่านมารัฐบาลได้จัดศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อบูรณาการทั้งหมดและรับแจ้งเหตุ 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยระงับความเสียหายที่เกิดขึ้น ตลอดจนดำเนินการปิดบัญชีม้าไปแล้วกว่า 1,900,000 บัญชี
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการร่วมกับธนาคารเพื่อยกระดับการเปิดบัญชีใหม่กับบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง ได้ยกร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มอำนาจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหา เช่น การกำหนดความผิดผู้ที่นำข้อมูลประชาชนไปขาย การเพิ่มความรับผิดชอบให้กับสถาบันการเงินและให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือร่วมรับผิดชอบกรณีไม่ระงับความเสียหายที่เกิดขึ้น สำหรับชายแดน ได้ให้หน่วยงานความมั่นคงปิดกันพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาอย่างเข้มข้น จับกุมขบวนการการค้ามนุษย์ที่ผ่านแดนไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ ตรวจค้นทำลายแหล่งส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ผิดกฎหมาย รวมถึงให้กระทรวงการต่างประเทศประสานหน่วยงานต่างประเทศเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งมีระบบไตรภาคี ระหว่างไทย จีน และเมียนมา เพื่อช่วยเหลือในการแก้ปัญหาระหว่างกัน พร้อมย้ำว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยต้องดูแลคนไทยก่อน ทั้งเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดหากไม่จบไม่เลิกแน่นอน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.68) จะเดินทางไปจังหวัดสระแก้ว เพื่อไปติดตามสิ่งที่สั่งการไปแล้ว เช่น การลดเสาส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต ปราบปรามซิมบ็อกซ์และระงับไว-ไฟคอลลิ่งจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเชื่อว่าการดำเนินการอย่างเข้มข้นของรัฐบาลจะทำให้การแก้ปัญหาหมดไปแน่นอน เพราะจากการดำเนินการที่ผ่านมา ถือว่ารัฐบาลได้รับความร่วมมือและมีผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์