อก. ขนย้ายสารพิษอลูมิเนียมดรอส “วิน โพรเสส” แล้วเสร็จใน 46 วัน ช่วยประหยัดงบประมาณ พร้อมเดินหน้าตรวจสุดซอยเคลียร์ปัญหากากของเสียทุกพื้นที่

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยของการขนย้ายตะกรันอลูมิเนียม หรืออลูมิเนียมดรอส ที่ตรวจพบลักลอบกักเก็บสะสมในพื้นที่โรงงานของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ว่า ภายหลังจากที่ตนเข้ารับตำแหน่งได้เร่งสะสางปัญหาบริษัท วิน โพรเสส จำกัด อย่างต่อเนื่อง จนเห็นผลภายในระยะเวลา 5 เดือน ล่าสุดได้ทำการขนย้ายอลูมิเนียมดรอสที่เป็นกากของเสียอันตรายออกจากพื้นที่จนแล้วเสร็จ แม้เดิมทีจะติดปัญหาในส่วนตัวเลขค่าใช้จ่ายในการบำบัดกำจัด รวมค่าขนส่งซึ่งสูงถึงประมาณ 1 หมื่นบาทต่อตัน หรือต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างน้อยถึง 70 ล้านบาท จึงได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม แถลงต่อศาลจังหวัดระยอง ขอเบิกเงินที่ บริษัท วิน โพรเสส จำกัด วางไว้ต่อศาล จำนวน 4.94 ล้านบาท มาใช้ในการบำบัดกำจัดอลูมิเนียมดรอสราว 7,000 ตัน เป็นลำดับแรก และยังได้ผนึกกำลังภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและได้รับความร่วมมือจาก บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผ่านกิจกรรม “อุตสาหกรรมรวมใจ” ทำการขนย้ายอลูมิเนียมดรอสไปบำบัดกำจัด ด้วยงบประมาณเพียงประมาณ 4 ล้านบาทเท่านั้น

ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เริ่มปล่อยรถขนย้ายคันแรกออกจากบริษัท วิน โพรเสส จำกัด เมื่อวันที่มกราคม 2568 โดยกำชับให้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมคุมเข้มการขนย้ายอย่างระมัดระวังรัดกุม เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในทุกขั้นตอนและเร่งรัดเดินรถขนย้ายเต็มกำลังจนสามารถดำเนินการขนย้ายอลูมิเนียมดรอสทั้งหมดแล้วเสร็จ 100% ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม – 1 มีนาคม 2568 รวมระยะเวลาเพียง 46 วัน ด้วยรถขนย้าย 225 เที่ยว จำนวนกว่า 5,400 ตัน เร็วกว่ากำหนดเดิมที่คาดการณ์ไว้ 60 วัน

กรณี บริษัท วิน โพรเสส จำกัด ถือเป็นปัญหาที่สะสมมานานกว่า 15 ปี จนมาเร่งสะสางและเห็นผลใน 5 เดือนที่เข้ารับตำแหน่ง ต้องชื่นชมและขอบคุณข้าราชการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมแรงร่วมใจจนสามารถขนย้ายกากของเสียอันตรายบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ก่อนจะเข้าสู่ฤดูฝนในปีนี้ ที่สำคัญ
ยังใช้งบประมาณในการขนย้ายและบำบัดกำจัดเพียง 3.09 ล้านบาท สามารถลดการใช้งบประมาณของภาครัฐลงได้กว่า 67 ล้านบาท

สำหรับในช่วงฤดูฝน กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เตรียมมาตรการรับมือช่วงฤดูฝน ดังนี้

  • บูรณาการความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตำบลบางบุตร กำหนดแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ชุมชนบ้านหนองพะวา ในการบล็อกน้ำฝนเพื่อเบี่ยงเบนทางน้ำไม่ให้ไหลหลากผ่านพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนสารเคมี ให้เจ้าหน้าที่ซีลคันดินบ่อที่กักเก็บน้ำเสียปนเปื้อนป้องกันไม่ให้ของเหลวซึมรั่วไหลออกมา ตลอดจนสำรวจและแก้ไขจุดรั่วไหลที่ตรวจพบ ด้วยการนำหินมาเสริมความแข็งแรงแนวคันดิน และนำดินมากลบทับอุดจุดที่รั่วเพื่อเสริมแนวป้องกันการรั่วซึม และสั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายเอกนัฏ ย้ำว่า จะไม่หยุดแค่พื้นที่นี้จะเดินหน้าเคลียร์ทุกพื้นที่ ทุกปัญหา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยจะนำทีมเฉพาะกิจของกระทรวงอุตสาหกรรม “ตรวจสุดซอย” เฝ้าระวังการประกอบการที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หากตรวจพบจะสั่งการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดและผู้ที่มีส่วนร่วม ในการกระทำความผิดอย่างเด็ดขาด เพื่อปั้นภาคอุตสาหกรรมตามนโยบาย “สู้ เซฟ สร้าง ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย” MIND ใช้หัวและใจปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งหาวิธีจัดการและผู้รับบำบัดกำจัดที่มีศักยภาพในการดำเนินการกับกากของเสียที่เหลือทั้งหมดให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อลดการเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนให้น้อยที่สุด โดยจะใช้บทเรียนการทำงานจากโมเดลการจัดการกากของเสียตกค้างในพื้นที่กรณี บริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี รวมถึงโกดัง อำเภอภาชี และบริษัท เอกอุทัย จำกัด ตำบลสามบัณฑิต อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาเป็นต้นแบบการจัดการกากของเสียที่ตกค้างอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านนายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะเร่งบำบัดกำจัดกากของเสียที่เหลือในพื้นที่บริษัทฯ ให้เร็วที่สุด ขณะนี้อยู่ระหว่างรองบกลาง ปี 2568 จำนวน 40 ล้านบาท ที่จะใช้บำบัดของเสียเคมีวัตถุและเศษซากของเสียที่ถูกไฟไหม้ ประมาณ 4,000 ตัน โดยเฉพาะสารเคมีที่บรรจุอยู่ในถัง IBC และถุงบิ๊กแบ็กที่อยู่นอกอาคารปริมาณ 2,600 ตัน รวมถึงวัตถุอันตรายในบ่อซีเมนต์อีกกว่า 1,400 ตัน ส่วนในปี 2569 อยู่ระหว่างขอรับการจัดสรรงบ EEC วงเงินงบประมาณ 459 ล้านบาท สำหรับบำบัดของเสียที่เหลือทั้งหมดอีกกว่า 24,300 ตัน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนเป็นสำคัญ

หากประชาชนพบปัญหาอุตสาหกรรม โรงงานเถื่อน โรงงานที่ทำให้เดือดร้อน สามารถแจ้งเรื่องได้ที่แอปพลิเคชันไลน์ “แจ้งอุต” ภายใต้ Traffy Fondue (https://landing.traffy.in.th/?key=gmyeYDBV) เปิดรับเรื่องทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง