นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ณ วัดท่าสะแบง อำเภอทุ่งเขาหลวง เป็นประธานเปิดโครงการ “เสริมพลังวัดพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง ท่าสะแบง Model” พร้อมพบปะเครือข่ายอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) สภาเด็กและเยาวชน และผู้ช่วยคนพิการในพื้นที่ อีกทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้กับครอบครัวเปราะบาง จำนวน 101 ราย
โครงการ “เสริมพลังวัด พัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง ท่าสะแบง Model” เป็นโครงการที่มีเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมต้นแบบทุนทางสังคมด้านการจัดสวัสดิการสังคม ผ่านกลไกความร่วมมือ วัด บ้าน ราชการ ในการพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัดท่าสะแบง โดยมูลนิธิพระราชวัชราวิทยาคม ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางจิตใจของประชาชนในพื้นที่และการขับเคลื่อนกิจกรรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาแบบองค์รวม ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจและจิตใจ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งในระดับชุมชน ซึ่งชุมชนท่าสะแบงจะเป็นแบบอย่างในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนกลุ่มเปราะบางในระดับท้องถิ่นและสามารถต่อยอดขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
จากนั้น เดินทางไปยังโรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น อำเภอเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดโครงการสมัชชา อพม. “พลัง อพม. สู่การเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน” พร้อมมอบบัตรประจำตัวและวุฒิบัตรให้แก่เด็กและเยาวชน จากสภาเด็กและเยาวชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเครือข่ายเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวนทั้งสิ้น 215 คน ที่เข้าร่วมโครงการผู้นำ อพม.รุ่นใหม่ อาสาเพื่อสังคม (New Gen Volunteer Leadership) ซึ่งมีผู้แทนองค์การยูนิเซฟ แห่งประเทศไทย เข้าร่วมด้วย
นายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประชากรไทย มีอัตราการเกิดอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับสังคมไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) อย่างรวดเร็ว นับเป็นประเด็นข้อท้าทายสำคัญของสังคมไทยต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ตระหนักถึงผลกระทบที่สำคัญต่อกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็ก เยาวชน สตรี ครอบครัว ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส รวมถึงผู้มีรายได้น้อย โดยได้ขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบาย 5X5 ฝ่าวิกฤตประชากร ข้อเสนอที่ 5 สร้างระบบนิเวศ (Eco-system) ที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาความมั่นคงของครอบครัว ด้วยการพัฒนาระบบสวัสดิการเหมาะสมและทั่วถึงโดยรัฐ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และเป็นหลักประกันในยามที่เผชิญกับวิกฤต (Social Safety Net) โดยสร้างเครือข่ายทุกภาคส่วนในสังคม รวมถึง สภาเด็กและเยาวชน ในรูปแบบของอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ให้เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนงานในในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึงและเชื่อมโยงการทำงานระหว่างรัฐและกลุ่มเปราะบางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้คือก้าวสำคัญในการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้มีความรู้ความเข้าใจในทักษะการทำงานอาสาสมัคร ทั้งการพัฒนาสังคมและการจัดสวัสดิการสังคม การประสานทรัพยากรและการมีส่วนร่วม ตลอดจนเป็นการปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชน “รักบ้านเกิด” และยังมีงานสมัชชา อพม. เป็นเวทีที่เปิดรับฟังความคิดเห็นจาก อพม. และภาคีเครือข่าย ในการขับเคลื่อนและพัฒนางาน อพม. นำไปสู่การจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย รวมทั้งเป็นการยกระดับ อพม. เป็นผู้ช่วยคนพิการ (PA) และเป็นผู้จัดการรายกรณี (CMA) ให้สามารถช่วยเหลือดูแลผู้ประสบปัญหาทางสังคมในชุมชนได้