คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน
2. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบฯ โดยมีงบประมาณค่าใช้จ่ายในการชดเชยเรือประมง จำนวน 923 ลำ วงเงิน 1,622,605,300 บาท (หนึ่งพันหกร้อยยี่สิบสองล้านหกแสนห้าพันสามร้อยบาทถ้วน) โดยขอใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
สาระสำคัญ
กรมประมง ได้จัดทำโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน โดยมีสาระสำคัญ เพื่อบริหารจัดการกองเรือประมงพาณิชย์ โดยรักษาความสมดุลของจำนวนเรือประมงพาณิชย์กับปริมาณสัตว์น้ำที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน เพื่อนำเรือประมงออกนอกระบบอย่างถาวร ตามแผนการบริหารจัดการประมงทะเลของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมชาวประมงให้ได้มีโอกาสประกอบอาชีพอื่น เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวประมงสามารถนำเรือประมงไปประกอบอาชีพอื่นนอกภาคประมง
เรือประมงกลุ่มเรือที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ที่มีความประสงค์จะเลิกอาชีพทำการประมง (เรือประมงกลุ่มขาว) ที่ผ่านการตรวจสอบและเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากร ประมงทะเลที่ยั่งยืนและคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ โดยมีผลตรวจสอบคุณสมบัติเป็นเรือประมงกลุ่มขาว และได้รับการประเมินราคาค่าใช้จ่ายในการนำเรือประมงออกนอกระบบ จำนวน 923 ลำ วงเงิน 1,622,605,300 บาท ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มเรือที่ประสงค์แยกชิ้นส่วน หรือทำลายเรือ โดยการแยกชิ้นส่วนให้สิ้นสภาพ จำนวน 873 ลำ เป็นเงิน 1,517,870,400 บาท
กลุ่มเรือที่ประสงค์แยกชิ้นส่วน หรือทำลายเรือ โดยการนำไปใช้ประโยชน์อื่น เช่น ร้านกาแฟ ห้องสมุด โรงแรม ที่พัก เป็นต้น จำนวน 3 ลำ เป็นเงิน 1,034,600 บาท
กลุ่มเรือที่ประสงค์เปลี่ยนประเภทเรือ เช่น เรือลากจูง เรือโดยสาร เรือบรรทุกสินค้า เป็นต้น จำนวน 47 ลำ เป็นเงิน 103,700,300 บาท
ระยะเวลาดำเนินงาน ระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี
สำหรับมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในการอนุมัติโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนครั้งนี้ เนื่องจากเมื่อการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบกรณีมีข้อเรียกร้องให้รัฐบาล ช่วยเหลือชาวประมงที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลในอดีตได้มีการดำเนินโครงการนำเรือออกนอกระบบ เพื่อลดความเสี่ยงการทำประมงอย่างผิดกฎหมาย IUU จากการที่เรือประมงไม่มีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบสากล ดังนั้นนายกรัฐมนตรี จึงสั่งการให้กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งดำเนินการหามาตรการจ่ายเงินเยียวยาให้กับเจ้าของเรือประมงที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้