เกาะละวะใหญ่ หรือเกาะละวะ เป็นเกาะเล็กๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ อพ.1 (เกาะละวะใหญ่) อยู่ในพื้นที่ตำบลคลองเคียน อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ห่างจากแผ่นดินใหญ่ประมาณ 1.5 กิโลเมตรเท่านั้น อยู่ในร่องน้ำรอยต่อระหว่างจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต นั่งเรือข้ามฟากไปแค่ 15 นาทีเท่านั้น
ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ตด้วยเรือทัวร์ท่องเที่ยวและเรือยอร์ชเช่าเหมาลำ จะมาแวะพักผ่อนนอนอาบแดดเล่นน้ำทะเลหน้าชายหาด ดำน้ำชมปะการังน้ำตื้นที่ยังสมบูรณ์และแหล่งหญ้าทะเล ท่ามกลางน้ำทะเลสีใส หาดทรายสวย เงียบสงบและสะอาด สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเกาะต่างๆ ในอ่าวพังงา และเกาะภูเก็ต บนเกาะมีบ้านพักรับรอง มีลานกางเต็นท์และห้องน้ำไว้บริการ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติในป่าบนเกาะ ดูค้างคาวแม่ไก่ฝูงใหญ่ที่มาหากินและนอนพักอยู่ตามต้นไม้บนเกาะ
นายภพ ทูนส่าง หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ อพ.1(เกาะละวะใหญ่) กล่าวว่า เกาะละวะใหญ่เป็นเป็นเกาะแห่งการเรียนรู้ มีความเป็นธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ เป็นจุดที่มีชายหาดให้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้จุดเดียวในอ่าวพังงา ทางอุทยานได้บริหารจัดการให้เป็นจุดท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์ ทั้งการเดินเล่นชายหาด เก็บขยะทะเล เล่นน้ำ ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นและหญ้าทะเล รวมถึงการเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติดูพันธุ์ไม้ต่างๆ และค้างคาวแม่ไก่บนเกาะ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสกับทะเลสวย หาดทรายขาว สะอาด สงบและปลอดภัยที่เกาะละวะใหญ่ได้ทุกวัน โดยมีเรือชาวบ้านคอยบริการรับส่งตลอดเวลา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา โทร 076 481 188
ด้านนายปภาวิน หยังหลัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเป็นที่น่ายินดีว่า เกาะละวะใหญ่ได้รับมอบป้ายรับรองมาตรฐานการบริหารจัดการชายหาดระดับสากล ตามมาตรฐาน ISO 13009 : 2015 Tourism and related services – Requirements and recommendations for beach operation ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศทั่วโลก เกี่ยวกับการบริหารจัดการชายหาดที่ครอบคลุมองค์ประกอบที่สำคัญ นับตั้งแต่การส่งเสริมและการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับชายหาดเพื่อความเข้าใจของนักท่องเที่ยว ความปลอดภัยในด้านการท่องเที่ยวแนวชายหาดและกิจกรรมทางน้ำที่เกี่ยวข้อง การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบจากการท่องเที่ยว ตลอดจนความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความยั่งยืน