นายกฯ หารือภาคเอกชน ร่วมพัฒนายกระดับชีวิตเกษตรกรไทย “การวิจัยและพัฒนา ด้านสาธารณสุขและการเกษตร”

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงาน ITB Berlin 2025 ณ ศูนย์การจัดนิทรรศการ Messe Berlin Exhibition Ground กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งเป็นงานที่เปิดโอกาสให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก ได้นำเสนอการขายสินค้าทางการท่องเที่ยว โดยนายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมคูหาประเทศไทย ภายใน Hall 26B Stand no.26 พร้อมพบปะผู้ประกอบการภาคเอกชนไทยที่เข้าร่วมงาน โดยมีผู้ประกอบการภาคเอกชนไทยจำนวน 160 ราย ได้นำเสนอสินค้าและการบริการทางการท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทยให้กว้างขวางผ่านแบรนด์ Amazing Thailand โดยประกาศให้ปี 2568 นี้เป็นปี “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” ภายใต้แนวคิด Sustainable Thailand Soft Power โดยออกแบบพื้นที่ผ่านการสะท้อนเอกลักษณ์ไทยสู่เวทีโลก

นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมคูหา Amazing Thailand ซึ่งผู้ประกอบการยุโรปได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเพื่อกระตุ้นและผลักดันการท่องเที่ยวไทย เยี่ยมชมคูหามวยไทย ชมการแสดงมวยโบราณ ร่วมทำ work shop เครื่องหอมกลิ่นดอกไม้ไทย และเยี่ยมชมคูหาเสน่ห์ไทยพวงมาลัยที่ทำจากไม้ไผ่

นายกรัฐมนตรี พบหารือผู้บริหาร trip.com ผู้บริหารแพลตฟอร์มท่องเที่ยวครบวงจร ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณที่บริษัทให้ความสำคัญ มีการจัดตั้งการดำเนินงานในประเทศไทย โดยรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายด้านการท่องเที่ยว พร้อมรับฟังหากบริษัทฯ มีข้อเสนอแนะ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยพัฒนานโยบายด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเชื่อมั่นว่าใน
ปีนี้ประเทศไทยจะเป็นจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยว

ผู้บริหาร trip.com พร้อมให้ความร่วมมือกับนายกรัฐมนตรี และทำงานร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นอย่างดีเสมอมา ทำให้เกิดความสำเร็จจากความร่วมมือมากมาย พร้อมสนับสนุนการขายผ่าน โซเชียลมีเดียและสนับสนุนนโยบาย Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ของรัฐบาลไทย มั่นใจในความพร้อมของไทย ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญด้านการท่องเที่ยวของโลก ด้วยความพร้อมและการสนับสนุนอย่างมียุทธศาสตร์ของรัฐบาล เชื่อมั่นว่าปี 2025 จะเป็นปีสำคัญของการท่องเที่ยวไทย

ทั้งสองฝ่ายพร้อมร่วมมือเพื่อออกแพ็คเกจกระตุ้นการท่องเที่ยว กิจกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย ให้ตรงตามความต้องการ เป็นไปตามกระแสนักท่องเที่ยวทั่วโลก พร้อมกันนี้ ผู้บริหาร Trip.com ได้ชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้นำรุ่นใหม่ รู้จักการใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดีย และเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีผู้ติดตาม และกดไลก์มากในประเทศจีน

นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์หารือกับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม (Dato’ Seri Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ระหว่างการเดินทางเยือนนครเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยสำหรับความช่วยเหลือทั้งเรื่องการจัดการเรื่องน้ำท่วม ความร่วมมือด้านพลังงาน และความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน ระหว่างไทย-มาเลเซีย

ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อความสำคัญของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณลุ่มแม่น้ำโก-ลก โดยนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหานี้เพื่อช่วยแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ พร้อมยืนยันความพร้อมของฝ่ายไทยในการแก้ปัญหาร่วมกับมาเลเซีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สั่งการให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน

นายกรัฐมนตรี ยังขอให้มาเลเซียร่วมมือกันเพื่อเร่งรัดการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจ/ความตกลงว่าด้วยการรับรองผลการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนแบบคงที่ตามแม่น้ำโก-ลก (พื้นที่เร่งด่วน 8) และร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยแผนการดำเนินงานการบริหารจัดการลุ่มน้ำโก-ลก แบบบูรณาการ (MOU on Integrated River Basin Management: IRBM) เพื่อทั้งสองฝ่ายร่วมกำหนดกลไกและแนวทางความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างมีระบบและยั่งยืน อีกทั้ง ยังขอให้มาเลเซียผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่ ที่จังหวัดสงขลา กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ของมาเลเซียให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา โดยถนนของฝ่ายไทยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2568 เพื่อให้การเปิดด่านใหม่แห่งนี้เป็นประโยชน์ในการค้าขายและการเดินทางของประชาชนทั้ง
2 ประเทศ ต่อไป

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยี่ยมชมบริษัท Bayer AG ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านค้นคว้า วิจัยและผลิต ผลิตภัณฑ์ด้านชีววิทยาศาสตร์ (Lifesciences) การเยี่ยมชมในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับ Mr. Stefan Oelrich กรรมการบริษัทฯ และหัวหน้ากลุ่มธุรกิจการแพทย์ ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 โดยบริษัทฯ ได้กล่าวถึงความเชี่ยวชาญของ Bayer ในการรักษาโรค เช่น มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคหัวใจ รวมถึงการบำบัดด้วยเซลล์และยีน (Cell and Gene Therapy) ซึ่งครอบคลุมการทดลองรักษาโรคพาร์กินสันและภาวะตาบอดบางประเภท ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะนำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้าสู่ประเทศไทยในอนาคต พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเร่งรัดกระบวนการอนุมัติยาเพื่อให้สามารถนำเสนอการรักษาใหม่ ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรี ยังได้พบหารือกับ Dr. Christian Rommel หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา Global Head of Research and Development ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ได้พบหารือกันต่อเนื่องจากเมื่อเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงถึงโอกาสและความพร้อมในการร่วมมือกัน โดย Bayer ได้กล่าวว่าสนใจจะหารือเพิ่มความร่วมมือด้านเกษตรกรรม นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือด้านการแพทย์และเกษตร การแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาร่วมกัน เพราะเชื่อว่าจะเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการพัฒนาและประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง

ผู้บริหาร Bayer ได้กล่าวถึงแนวทางการทำงานของบริษัทฯ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความก้าวหน้าในงานวิจัยของบริษัทฯ กับนายกรัฐมนตรี ทั้งด้านเกษตรกรรมและชีววิทยา รวมทั้งหาแนวทางร่วมกันในการเพิ่มความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ กับประเทศไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการศึกษาและวิจัย พัฒนาเพื่อการเกษตรที่ก้าวหน้า ยกระดับชีวิตเกษตรกร เพิ่มผลผลิต เพิ่มราคาและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน และพร้อมร่วมมือในโครงการ better life farmer กับ Bayer 

บริษัท Bayer AG เน้นย้ำการพัฒนาเทคโนโลยีด้านชีววิทยาศาสตร์ ซึ่งบริษัทฯ แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 แผนกหลัก ได้แก่ 1) แผนกเภสัชภัณฑ์ ผลิตยารักษาโรคต่างๆ เช่น Aspirin และ Xarelto 2) แผนกสุขภาพผู้บริโภคที่จำหน่ายยาที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ อาทิ ยาแก้หวัด ยาแก้ไข้ ยารักษาภูมิแพ้ และ 3) แผนกวิทยาศาสตร์พืชผล ที่ดูแลเมล็ดพันธุ์และผลิตภัณฑ์อารักขาพืช โดยปัจจุบันบริษัทมีเครือข่าย 340 บริษัทใน 80 ประเทศ และยังมีความร่วมมือเพื่อพัฒนานวัตกรรมด้านเกษตรกรรมและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พบหารือกับนาย Stefan P. Butz ผู้บริหารบริษัท DKSH Holding Ltd. (ธุรกิจให้บริการด้านการขยายตลาดระดับโลก) ที่โรงแรม Mandarin Oriental Savoy Zurich สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างเดินทางไปยังนครเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพี่อร่วมงาน ITB Berlin 2025 

โดย DKSH Holding AG ขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนของบริษัทฯ ในประเทศไทยเสมอมา ซึ่งเชื่อมั่นและสนับสนุนวิสัยทัศน์นายกรัฐมนตรีที่ได้กำหนดนโยบายที่จะเป็นประโยชน์ และสอดคล้องกับกระแสการพัฒนาของโลกปัจจุบัน 

นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการลงทุนในประเทศไทย พร้อมกันนี้ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงแนวทางการทำงานของบริษัทในอนาคต โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมให้การสนับสนุนลดขั้นตอน ข้อจำกัดในการขอใบอนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์ ที่มีกระบวนการและใช้เวลานาน

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำการแก้ปัญหาการดำเนินงานที่ซับซ้อนของภาครัฐ พร้อมสานต่อนโยบายเอื้ออำนวยการทำธุรกิจมากขึ้น (Ease of Doing Business) นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้หารือเรื่องการทำธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าขนส่งสินค้า และใช้ประโยชน์จากโครงการ Landbridge ของไทย ยกระดับการขนส่งสินค้า โลจิสติกส์ พร้อมกันนี้ ทางบริษัทฯ สนใจที่จะลงทุนในด้านชิ้นส่วนของ semi-conductor ที่ทางบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญและตั้งอยู่ในไทยแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นภาคอุตสาหกรรมอนาคตที่รัฐบาลต้องการให้การสนับสนุน

นายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสนี้ขอให้บริษัทฯ สนับสนุนสินค้าจากชาวนา และเกษตรกรไทยเพื่อส่งเสริมยกระดับสินค้าไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกษตร ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อเพิ่มการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายตระหนักถึง ถือเป็นความสำคัญ เป็นความท้าทายของโลก โดยนายกรัฐมนตรี พร้อมร่วมมือกับบริษัทฯ ในประเด็นที่เป็นประโยชน์ร่วมกันต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง