นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสร้างการรับรู้โครงการสนับสนุนเสริมสร้างศักยภาพของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง (โครงการ SML) ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งใหญ่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนายสุริยา บุตรจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการและสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง อำเภอกันทรลักษ์ เข้าร่วมการประชุม โดยในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ มีกองทุนหมู่บ้าน มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองครอบคลุมทั้ง 20 ตำบล จำนวน 279 กองทุน ได้รับทุนเริ่มต้นจากรัฐบาลในปี 2544 กองทุนละ 1 ล้านบาท ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกรวมกว่า 32,000 คน
นางสาวจิราพร กล่าวว่า รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ส่งเสริมกองทุนหมู่บ้าน เพื่อกระจายรายได้และเสริมสร้างการพัฒนาชุมชนหมู่บ้านทั่วประเทศ ซึ่งกองทุนหมู่บ้านถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญและสนับสนุนเพื่อเสริมศักยภาพ ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในหมู่บ้านชุมชน กระตุ้นให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ รวมถึงการแก้ไขปัญหาจำเป็นเร่งด่วนนำไปสู่ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจในพื้นที่ ปลดล็อคความยากจนโดยการจัดสรรเงินงบประมาณให้กองทุนหมู่บ้านให้เกิดการหมุนเวียน ซึ่งดำเนินการมากว่า 20 ปี มีความเข้มแข็งประสบความสำเร็จอย่างดี แม้บางกองทุนหมู่บ้านอาจจะประสบปัญหาบ้าง โดยจะมีคณะอนุกรรมการฟื้นฟูกองทุนขึ้นมาเพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไข มีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือดูแล รวมถึงการหาบุคลากรรุ่นใหม่มาช่วยทำงาน และจะมีการนำเสนอโครงการบัณฑิตกองทุนฯ เพื่อเข้ามาช่วยทำงานเติมเต็มให้กองทุนหมู่บ้าน
สำหรับโครงการสนับสนุนเสริมสร้างศักยภาพของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง (โครงการ SML) เป็นการกระจายเม็ดเงินจากส่วนกลางลงสู่ชุมชน หมู่บ้านโดยตรง ให้พี่น้องประชาชนเป็นคนบริหารจัดการเงิน ช่วยกันคิดโครงการ ให้ตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน ซึ่งในปี 2568 ได้ตั้งงบประมาณไว้ 11,000 ล้านบาท หมู่บ้านที่มีประชากร ไม่เกิน 500 คน จัดสรรเงิน 200,000 บาท ประชากร 501 – 1,000 คน จัดสรรเงิน 300,000 บาท ประชากร 1,001 คนขึ้นไป จัดสรรเงิน 400,000 บาท
โดยกองทุนหมู่บ้านที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรเงินจะต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว และส่งงบการเงินย้อนหลัง 2 ปีติดต่อกัน (ปี 2566-2567) รวมทั้งคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านจะต้องอยู่ในวาระการดำรงตำแหน่งปัจจุบัน และต้องจัดการประชุมประชาคมเพื่อเสนอโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ เช่น โครงการสร้างอาชีพ โครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในชุมชน ให้ทุกคนช่วยกันคิดเป็นการดำเนินการตามหลักประชาธิปไตย เพราะนอกจากจะกระจายเม็ดเงินลงสู่ชุมชนแล้ว ยังกระจายอำนาจการตัดสินใจให้พี่น้องประชาชนด้วย เป็นโอกาสของประชาชนในการแก้ไขปัญหาในชุมชน สร้างอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนร่วมกัน โดยมีองค์ประชุมประกอบด้วยผู้แทนครัวเรือนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนครัวเรือนทั้งหมดและในจำนวนนี้ต้องเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้านไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกกองทุนหมู่บ้านทั้งหมด
นางสาวจิราพร ยืนยันว่า โครงการไม่มีการล็อคสเปก ถ้าจัดประชาคมถูกต้องตามระเบียบ เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายหรืออบายมุข ผ่านแน่นอนหากมีใครมาแอบอ้างว่าเป็นตัวแทนของรัฐบาล ตัวแทนของรัฐมนตรี หรือตัวแทนของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ขอย้ำว่า ไม่มีบริษัทใดเป็นตัวแทน รัฐบาลไม่ได้มีนโยบายส่งบริษัท หรือตัวแทนมาทำโครงการ รัฐบาลต้องการอัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ชุมชนให้เร็วที่สุด เพราะว่าเป็นหนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อจากโครงการเงินหมื่น จึงหวังว่าโครงการกองทุนหมู่บ้านจะสร้างประโยชน์ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต เป็นสมบัติของพี่น้องประชาชนที่ช่วยกันดูแลให้เป็นประโยชน์กับลูกหลานในอนาคต และคาดว่าจะเริ่มให้มีการจัดทำประชาคมเพื่อเสนอโครงการได้ในช่วงกลางเดือนเมษายน 2568 เป็นต้นไป และเมื่อแต่ละหมู่บ้านได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2568
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสร้างการรับรู้โครงการสนับสนุนเสริมสร้างศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง (โครงการ SML) โดยมีผู้แทนคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านระดับอำเภอในพื้นที่ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สาขาเขต 4 (กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร นครพนม) สาขาเขต 5 (ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม) และ สาขาเขต 6 (เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ) จำนวน 13 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมการประชุม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างคณะกรรมการและสมาชิกจากกองทุนต่างๆ ในพื้นที่ 13 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิก การบริหารจัดการกองทุนอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ และการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน
จากการประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 มีมติเห็นชอบ จัดสรรเงินให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ดังนี้
1. ขนาดหมู่บ้านและชุมชนเมือง ขนาด S ประชากร ไม่เกิน 500 คน จัดสรรเงิน 200,000 บาท
2. ขนาดหมู่บ้านและชุมชนเมือง ขนาด M ประชากร 501 – 1,000 คน จัดสรรเงิน 300,000 บาท
3. ขนาดหมู่บ้านและชุมชนเมือง ขนาด L ประชากร 1,001 คนขึ้นไป จัดสรรเงิน 400,000 บาท
คุณสมบัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่ประสงค์ขอรับงบประมาณตามโครงการ ดังนี้
1. เป็นกองทุนหมู่บ้านที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
2. เป็นกองทุนหมู่บ้านที่ส่งงบการเงินรอบปีบัญชีล่าสุดและรอบปีบัญชีก่อนหน้าให้สำนักงานต่อเนื่อง 2 ปี (ปี 2566-2567)
3. มีคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านที่ได้รับการคัดเลือกและรับรองให้เป็นคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน และอยู่ในวาระการดำรงตำแหน่งโดยถูกต้องตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ว่าด้วยการจัดตั้งและบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2551
หลักเกณฑ์การจัดประชุมประชาคม กองทุนหมู่บ้านที่มีคุณสมบัติและมีความประสงค์ขอรับจัดสรรงบประมาณโครงการ ต้องจัดให้มีการประชุมประชาคม เพื่อนำเสนอโครงการตามวัตถุประสงค์ โดยองค์ประชุมประชาคมให้ประกอบด้วย
1. ผู้แทนครัวเรือนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนครัวเรือนทั้งหมด
2. สมาชิกกองทุนหมู่บ้านไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกกองทุนหมู่บ้านทั้งหมด โดยผู้แทนครัวเรือนและสมาชิกกองทุนหมู่บ้านสามารถเป็นบุคคลเดียวกันได้
โดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ จะดำเนินการประชาสัมพันธ์โครงการฯ ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจกับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและพี่น้องประชาชนต่อไป