พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รวมทั้งพลตำรวจเอก ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร และผู้บริหารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว ตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบนำเข้าจากประเทศจีนจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับกรมศุลกากรและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจยึดสินค้าผ่านแดนในตู้สินค้า ต้นทางจากประเทศจีน ส่งไปยังประเทศเมียนมาและได้นำเข้าสินค้าผ่านท่าเรือแหลมฉบังและจะไปทำการตรวจปล่อยที่ด่านศุลกากรแม่สอด สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 โดยสำแดงสินค้าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ส่วนประกอบรถยนต์ เครื่องจักรและอื่นๆ หลายตู้คอนเทรนเนอร์ กรมศุลกากรได้ดำเนินการขอใบเปิดตู้เพื่อตรวจสอบสินค้า แต่ไม่มีใครมาแสดงตัวใน 15 วัน จึงได้อายัดและทำการตรวจค้น
พบ 1 ตู้คอนเทรนเนอร์ จากทั้งหมด เป็นบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และหัวพอดบุหรี่ไฟฟ้าที่ภายในบรรจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งหมด จำนวน 210,300 ชิ้น มูลค่ากว่า 33 ล้านบาท
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า การลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะตัวหัวเชื้อระยะหลังพบว่ามีการนำไปใช้ประกอบเป็นสารร่วมกับยาเสพติด ครั้งนี้ก็จะใช้กฎหมายในการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหลักและมีอัตราโทษค่อนข้างสูง เบื้องต้นยังพบว่าบุหรี่ไฟฟ้ายังไม่มีการผลิตในประเทศ แต่มีผลิตในต่างประเทศ จึงเป็นเรื่องที่กรมศุลกากรจะมีการนำมาตรการเข้ามาป้องกันเพื่อไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกลักลอบเข้ามาและมาแพร่ระบาดใช้ภายในประเทศ พร้อมย้ำว่าจะไม่มีการระงับคดี แต่จะดำเนินการจนถึงที่สุดกับผู้ค้าทุกราย
ขณะที่ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกด้วยว่า สำหรับสถิติการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ในปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 – 7 มีนาคม 2568) จับกุมได้ 298 คดี มูลค่า 73.25 ล้านบาท หลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลไปยังผู้ค้าทั้งรายใหญ่และรายย่อย รวมถึงในออนไลน์ เพื่อที่จะปราบปรามทั้งหมด
การลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องสินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ.2559 ประกอบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้บารากู่และ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 และประกาศกรมศุลกากรที่ 185/2564 เรื่อง พิธีการศุลกากรว่าด้วยการผ่านแดนทางอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ของกลางที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ กรมศุลกากรจะนำไปประเมินราคาเพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินคดีคดี ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้เร่งกลางสืบสวนสอบสวนและขยายผลไปยังตัวการ ผู้ใช้และผู้สนับสนุน ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการพิเศษอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนต่อไป