ครม. เคาะราคาอ้อยขั้นสุดท้าย – ผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้ายฤดูการผลิตปี 2566/2567

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย (ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ) ฤดูการผลิตปี 2566/2567 เป็นรายเขต 9 เขต โดยมีอัตราเฉลี่ยทั่วประเทศ ดังนี้

(1) ราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2566/2567 ในอัตรา1,404.17 บาทต่อตันอ้อย ที่ระดับคุณภาพความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. (Commercial Cane Sugar (C.C.S.) เป็นระบบการคิดคุณภาพของอ้อย โดยคำว่า ซี.ซี.เอส. หมายถึง ปริมาณน้ำตาลที่มีอยู่ในอ้อยซึ่งสามารถหีบสกัดออกมาได้เป็นน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์)

(2) อัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อย เท่ากับ 84.25 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. 

(3) ผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิต ปี 2566/2567 เท่ากับ 601.79 บาทต่อตันอ้อย  ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงอุตสาหกรรม นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย (ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ) ฤดูการผลิตปี 2566/2567 เป็นรายเขต 9 เขต ซึ่งเป็นการดำเนินการหลังสิ้นสุดฤดูการผลิตน้ำตาลทราย เพื่อกำหนดราคาอ้อยและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายที่ชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลจะได้รับจริง
โดยคำนึงถึงหลักเกณฑ์ต่างๆ เช่น รายได้สุทธิจากการจำหน่ายน้ำตาลทราย ต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตอ้อยและน้ำตาลทราย เป็นต้น ซึ่งข้อเสนอในครั้งนี้มีอัตราเฉลี่ยทั่วประเทศเปรียบเทียบ กับราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น (ราคาอ้อยขั้นต้นฯ) ฤดูการผลิตปี 2566/2567 และราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ ฤดูการผลิต ดังนี้

ราคาอ้อยและผลตอบแทนการผลิต และจำหน่ายน้ำตาลทรายฤดูการผลิต
  ปี 2566/2567
ราคาอ้อยขั้นต้นฯ
(ทุกเขต)
ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ
(เฉลี่ยรายเขต)
ที่เสนอมาในครั้งนี้
ราคาอ้อย ที่ระดับคุณภาพความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. (บาทต่อตันอ้อย)1,420.001,404.17
อัตราขึ้น/ลง ของราคาอ้อย
(บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส.)
85.2084.25
ผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย (บาทต่อตันอ้อย)608.57601.79

ทั้งนี้ ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ ฤดูการผลิตปี 2566/2567 มีเขตคำนวณราคาอ้อยที่มีราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ ต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้นฯ จำนวน 4 เขตคือ เขต 2 3 4 และ 6 ต้องดำเนินการตามมาตรา 56 ที่บัญญัติให้ในกรณีที่ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ ต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้นฯ ให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กองทุนฯ) นำเงินตามมาตรา 27 (1) (2) และ (4) มาจ่ายชดเชยให้แก่โรงงานเท่ากับส่วนต่างดังกล่าวตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) กำหนดและมีเขตคำนวณราคาอ้อยที่มีราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ สูงกว่าราคาอ้อยขั้นต้นฯ จำนวน 4 เขตคือ เขต 1 5 7 และ 9 ที่ต้องดำเนินการตามมาตรา 57 ที่บัญญัติให้ในกรณีที่ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ สูงกว่าราคาอ้อยขั้นต้นฯ ให้โรงงานนำส่งเงินเข้ากองทุนฯ จากรายได้สุทธิตามมาตรา 54 ตามอัตราและภายในเวลาที่ กอน. กำหนด และหากมีเงินเหลือให้โรงงานจ่ายเงินให้กับชาวไร่อ้อยเพิ่มโดยคำนึงถึงการจ่ายเงินให้แก่ผู้ปลูกอ้อยโดยตรง ซึ่ง กอน. ในคราวประชุมครั้งที่ 6/2567 เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 มีมติให้จัดเก็บในอัตราตันละศูนย์บาททุกเขตคำนวณราคาอ้อย

ด้านนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีที่ราคาอ้อย ขั้นสุดท้ายฯ ฤดูการผลิตปี 2566/2567 มีเขตคำนวณราคาอ้อยที่มีราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ ต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้นฯ จำนวน 4 เขต คือ 2 3 4 และ 6 จึงต้องมีการชดเชยค่าส่วนต่าง ดังนั้น กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จึงเห็นว่าการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ในอัตราตันละศูนย์บาททุกเขตคำนวณราคาอ้อยเป็นไปเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ก็สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องคำนึงถึงสถานการณ์บริหารจัดการกองทุนฯ ด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรหาแนวทางและมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยในเขตที่มีราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ ต่ำกว่าเขตอื่น รวมทั้งยกระดับมาตรการลดการเผาอ้อยทั้งในรูปแบบการสนับสนุนการเข้าถึงเทคโนโลยี การกำหนดมาตรการจูงใจอย่างต่อเนื่องและการดำเนินมาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบเผาอ้อยอย่างเคร่งครัด ตลอดจนพัฒนาด้านเครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย

สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้มีการแบ่งเขตคำนวณราคาอ้อย ในอดีตมีการแบ่งเป็นรายภาค ได้แก่ ภาคเหนือ กลาง ตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมาโรงงานน้ำตาลและเกษตรกรชาวไร่อ้อย ได้มีการหารือร่วมกับ สอน. เพื่อขอแบ่งเขตคำนวณราคาอ้อยใหม่จากเดิม 4 เขต เป็น 9 เขตคำนวณราคาอ้อย โดยพิจารณาจากพื้นที่ตั้งโรงงาน และประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลของแต่ละโรงงาน ดังนี้

เขต 1 สุโขทัย อุตรดิตถ์

เขต 2. กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิษณุโลก อุทัยธานี

เขต 3. สิงห์บุรี นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี

เขต 4. สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ อุทัยธานี ราชบุรี

เขต 5. สุพรรณบุรี

เขต 6. ประจวบคีรีขันธ์

เขต 7. สระแก้ว ชลบุรี

เขต 8. ชลบุรี

เขต 9. สุรินทร์ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี มุกดาหาร บุรีรัมย์ ชัยภูมิ หนองบัวลำภู เลย สกลนคร อำนาจเจริญ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง