นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ครั้งที่ 1/2568 ณ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการดำเนินงานตามอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 182 ซึ่งประเทศไทยให้สัตยาบันตั้งแต่ปี 2544 โดยมีนางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน เรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน คณะกรรมการระดับชาติฯ จากทุกภาคส่วนเข้าร่วมประชุม
การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญในการกำหนดแนวทางและติดตามความก้าวหน้าของมาตรการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย โดยคณะกรรมการระดับชาติฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน องค์กรนายจ้าง องค์กรลูกจ้าง องค์กรพัฒนาเอกชน นักวิชาการที่เกี่ยวข้อง มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแล ติดตามและเสนอแนะนโยบายเพื่อให้ประเทศไทยปลอดจากการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย
นายพิพัฒน์ ระบุว่า รัฐบาลไทยและกระทรวงแรงงาน มุ่งปกป้องสิทธิเด็กและขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเสี่ยง พร้อมเร่งดำเนินมาตรการเข้ม ทั้งการบังคับใช้กฎหมาย การส่งเสริมให้มีมาตรฐานด้านแรงงานและการคุ้มครองเด็กกลุ่มเปราะบาง อีกทั้งยังจับมือ ILO และพันธมิตรนานาชาติ เพื่อยกระดับมาตรฐานแรงงานไทยสู่ระดับสากล โดยมีแนวทางปฏิบัติที่สำคัญของไทยที่มุ่งมั่นดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย โดยเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่ผิดกฎหมาย พร้อมทั้ง เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ผ่านการส่งเสริมแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (GLP) และพัฒนาเครือข่ายคุ้มครองแรงงาน
นอกจากนี้ รัฐบาลและกระทรวงแรงงาน ยังให้ความสำคัญกับการศึกษาและการป้องกัน โดยสนับสนุนเด็กกลุ่มเสี่ยงให้เข้าถึงการศึกษาและจัดสวัสดิการเพื่อคุ้มครองทางสังคม ควบคู่กับการขจัดการใช้แรงงานเด็กในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น อุตสาหกรรมอาหารทะเล เครื่องนุ่งห่ม และเกษตรกรรม เพื่อให้ประเทศไทยปลอดจากการใช้แรงงานเด็กอย่างแท้จริง
ด้าน เรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวถึงการตอบข้อกังวลของ ILO ในความคืบหน้าของไทยในการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายว่า ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึง ความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมในเวทีนานาชาติ โดยดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อลดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ซึ่งเห็นผลชัดเจนในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นขึ้น ส่งผลให้คดีการใช้แรงงานเด็กเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นถึง 194%, การป้องกันและเฝ้าระวัง ผ่านโครงการป้องกันการค้ามนุษย์ในเด็กในสถานศึกษากว่า 600 คน, รวมถึงการปรับปรุงมาตรฐานแรงงานในภาคอุตสาหกรรม จนสามารถปลดสินค้ากุ้งไทยออกจากบัญชีสินค้าที่ผลิตโดยแรงงานเด็กของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ (TVPRA List)
การขจัดแรงงานเด็กไม่ใช่เพียงภารกิจของกระทรวงแรงงาน แต่เป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาสังคม เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยและเป็นธรรมสำหรับเด็กทุกคน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ที่มุ่งเน้นการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายอย่างยั่งยืน
