นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานรับผิดชอบที่เกี่ยวข้อง ถึงเรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างถนนและเส้นทาง โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมทางหลวง อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และอธิบดีกรมบัญชีกลาง เข้าร่วมประชุม
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์คานเหล็กถนนพระราม 2 ในโครงการทางทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนองฯ ทรุดตัวทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เมื่อกลางดึกของวันที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้ลงนามสัญญาในรัฐบาลชุดปัจจุบัน แต่รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นปัญหาและเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกระทรวงคมนาคมกำหนดบทลงโทษให้ชัดเจน เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ต้องการให้รับผิดชอบทางแพ่งด้วย ในส่วนของที่ปรึกษาโครงการและผู้รับผิดชอบในวิชาชีพจะต้องดูว่ามีการละเลยในขั้นตอนต่าง ๆ หรือไม่ และการควบคุมการก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐาน ตามข้อกำหนด และตามกฎเกณฑ์หรือไม่ ทั้งนี้ จะต้องรับผิดชอบทางอาญาด้วย ซึ่งจะต้องเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน รวมถึงต้องยึดใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือไม่ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง พร้อมกับตั้งโจทย์ว่าหากเกิดปัญหาขึ้นอีก จะมีผู้รับผิดชอบในด้านใดบ้าง
“อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น คือสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดการเสียชีวิต ชีวิตของคนไม่ควรจะเกิดแบบนี้ เพราะฉะนั้นต้องชัดเจนในเรื่องของความรับผิดชอบต่างๆ ขอให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง”
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะต้องดูในรายละเอียดของการสอบสวนด้วยว่าเกิดขึ้นอย่างไร โดยมอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI สอบสวนหาข้อเท็จจริงให้ชัดเจนมากขึ้น หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในอนาคต ไม่ต้องการให้ปล่อยผ่านแล้วเกิดความรับผิดชอบเป็นครั้งๆ ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจริงจังกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำๆ อีก พร้อมกับกำชับเรื่องการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดและเรื่องของความปลอดภัยของผู้สัญจร จะต้องให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
นายกรัฐมนตรี กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยสั่งการให้ศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง นำมาบังคับใช้อย่างเคร่งครัดและเด็ดขาด พร้อมกับย้ำว่า หากการกระทำมีความผิดชัดเจนตามกฎหมายระบุไว้ ไม่ต้องกลัวจะถูกฟ้องกลับ อะไรที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดปัจจุบันพร้อมจะรับผิดชอบและแก้ไขปัญหา ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันศึกษาและรายงานความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการและกำชับให้กระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้การกำกับดูแลหารือเพื่อเร่งมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุดในการดำเนินการก่อสร้างทุกโครงการ พร้อมกับเร่งจัดทำมาตรการการลงโทษที่รุนแรงต่อผู้รับเหมาที่กระทำความผิด หากพบผิดจริงต้องพิจารณาไม่ให้ประมูลงานหรือยื่นรับงานอีกต่อไป
ทั้งนี้ มาตรการที่เริ่มใช้ได้ทันทีระหว่างรอมาตรการสมุดพกผู้รับเหมาบังคับใช้นั้น คือพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 หมวด 12 มาตรา 109 นำไปสู่ลักษณะเป็นการทิ้งงาน แต่อย่างไรก็ตามยังต้องอยู่ที่ดุลยพินิจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการตัดสินซึ่งต่างจากมาตรการสมุดพก หากเริ่มบังคับใช้ จะมีเงื่อนไขที่ชัดเจนในการตัดสินการลงโทษผู้กระทำความผิดทันที
นายสุริยะ ระบุว่า กระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมที่จะดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ได้เร่งทำมาตรการ “สมุดพกผู้รับเหมา” ให้แล้วเสร็จพร้อมบังคับใช้ได้ทันทีภายในเดือนเมษายน 2568 จากเดิมที่คาดแล้วเสร็จช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 ซึ่งมั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะใช้ได้ผลอย่างแน่นอน หากมีผู้รับเหมากระทำผิดและโดนหักคะแนน จะไม่สามารถรับงานได้อีก ซึ่งมีผลต่อผลประกอบการบริษัทรายนั้น และส่งผลเชิงลบต่อการรับงานที่อื่นๆ อีกด้วย
สำหรับสาเหตุของคานสะพานก่อสร้างทรุดตัวบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนองของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเร่งตรวจสอบ คาดใช้เวลา 1 เดือน ถึงได้เห็นความชัดเจนของสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งบริษัทผู้รับเหมาและบริษัทที่ปรึกษา หากผลสอบพบกระทำผิดจริงจะดำเนินคดีอาญาทันที
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า จากเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัวบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนองของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้า การกู้คืนพื้นที่บริเวณดังกล่าวโดยด่วน ขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการกู้คืนพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนสูงสุด
สำหรับการตรวจสอบในวันที่ 16 มีนาคม 2568 พบว่า สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากตัวโครงสร้างไม่สามารถรับน้ำหนักได้ จึงทำให้คานสะพานเกิดการทรุดตัว ทั้งนี้ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ร่วมดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น รวมถึงกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัย พร้อมทั้งให้รายงานความคืบหน้ามายังกระทรวงคมนาคมอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ภายหลังการจัดการกู้คืนพื้นที่เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน และหลังจากนั้นอีก 20 วัน คาดว่าจะทราบผลสรุปการตรวจสอบข้อเท็จจริง และสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของสัญญาอื่นๆ ของโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว (M82) นั้น ได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบสภาพทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับจัดทำรายการสิ่งที่ต้องตรวจสอบเพื่อนำไปใช้สำหรับโครงการอื่นๆ ต่อไปในอนาคต เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุให้ได้มากที่สุด และต้องไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกอย่างเด็ดขาด ยืนยันว่าทุกโครงการบนถนนพระราม 2 จะเสร็จภายในสิ้นปี 2568 อย่างแน่นอน เป็นไปตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้เร่งดำเนินการจัดการกู้คืนพื้นที่ โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการ 22 ชั่วโมงต่อวัน คาดว่าจะเสร็จสิ้นเร็วกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่คาดว่าจะเสร็จภายใน 7 วัน เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางสัญจรได้ตามปกติ