นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า วันสุขภาพช่องปากโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 20 มีนาคมของทุกปี กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญ เพราะถือว่าการมีสุขภาพช่องปากที่ดีเป็นรากฐานของสุขภาพองค์รวม ทั้งนี้ ยังพบว่าประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง กลุ่มชายขอบ รวมถึงคนพิการ ยังเข้าถึงบริการทันตกรรมน้อยเพียงร้อยละ 26 จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายของรัฐบาล เพื่อคนไทยทุกคนได้เข้าถึงบริการทันตกรรมผ่านสิทธิการรักษาพยาบาลที่มี 3 ระบบใหญ่คือ สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ สิทธิประกันสังคมและสิทธิหลักประกันสุขภาพบัตรทอง 30 บาท แม้จะมีการพัฒนาบริการสุขภาพช่องปากในหลายๆ ด้าน แต่ยังมีอุปสรรค ข้อจำกัดและความไม่สมดุลในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล กลุ่มคนที่ขาดโอกาส ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแลช่องปาก การแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปากของประชาชนกลุ่มเปราะบาง จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมกันจัดระบบการดูแลสุขภาพช่องปากที่ต้องมากกว่าระบบปกติ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพช่องปากที่ดีอย่างเท่าเทียม ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาทางทันตกรรมในระยะยาวและมีคุณภาพชีวิตที่ ดีขึ้น
ด้านแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยมีความมุ่งมั่นทำหน้าที่ในการเชื่อมประสานและจัดการให้ทุกภาคส่วนได้จัดระบบบริการสุขภาพช่องปากแบบบูรณาการภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมและครอบคลุม โดยออกแบบโมเดลและจัดระบบโดยเฉพาะสำหรับประชาชนกลุ่มเปราะบาง พัฒนาความร่วมมือรัฐร่วมเอกชนเพื่อจัดบริการด้วยนวัตกรรมและรถทันตกรรมเคลื่อนที่ การบูรณาการความร่วมมือกับชมรม สมาคม องค์กรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจัดบริการด้านสุขภาพช่องปากที่มีความซับซ้อน เช่น เด็กพิการและผู้สูงอายุ รวมทั้งการพัฒนาระบบทันตกรรมปฐมภูมิให้เข้มแข็ง