นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ 17 ร่วมกับนายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และโฆษกกระทรวงฯ, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, คณะกรรมาธิการและที่ปรึกษาสมาชิกวุฒิสภา, คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ผู้แทนจากสถานทูตหลายประเทศ ตลอดจนนักมวยไทยจากทั่วโลก เข้าร่วม ณ วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งานไหว้ครูมวยไทยโลก เป็นการผสมผสานศิลปวัฒนธรรมและกีฬาให้เป็นหนึ่งเดียว พร้อมส่งเสริม Soft Power ของไทย ผ่านเอกลักษณ์มวยไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักกีฬาจากทั่วโลก”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เน้นย้ำว่า การจัดงานนี้ถือเป็นกลไกสำคัญในการผลักดัน “มวยไทย” ให้เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากขึ้นในเวทีโลก โดยปีนี้จัดขึ้นในพื้นที่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของไทย ซึ่งเป็นมรดกโลกอันทรงคุณค่า ทั้งนี้ การท่องเที่ยวเชิงกีฬาผสมผสานวัฒนธรรมเช่นนี้ช่วยสร้างรายได้ กระตุ้นการใช้จ่ายและเพิ่มวันพักของนักท่องเที่ยวให้ยาวนานขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม
ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมสนับสนุนงานนี้ โดยเฉพาะนักมวยไทยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่มวยไทยสู่สายตาชาวโลก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าศิลปะมวยไทยจะได้รับการสืบสานและพัฒนาให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน
พิธีไหว้ครูมวยไทยเป็นวัฒนธรรมที่นักมวยทุกคนต้องปฏิบัติก่อนการขึ้นชก ถือเป็นการแสดงความเคารพต่อครูบาอาจารย์ บิดามารดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นศิษย์มีครู ในอดีต การไหว้ครูมวยไทยยังเป็นพิธีถวายบังคมต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งทรงให้การอุปถัมภ์มวยไทยอย่างต่อเนื่อง
การร่ายรำมวยไทย นอกจากเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละสำนักหรือค่ายมวยแล้ว ยังเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้นักมวยได้สังเกตเชิง คู่ต่อสู้และอบอุ่นร่างกายก่อนการแข่งขัน ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และส่งเสริมในระดับนานาชาติ
การจัดงานไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ 17 ในปีนี้ สะท้อนถึงการสืบสานประเพณีอันทรงคุณค่าควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในการพัฒนา “มวยไทยสู่เวทีโลก” อย่างยั่งยืน