นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าแรงงานต่างชาติเป็นกลไกหนึ่งในระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและก่อสร้าง แต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมายไทย ไม่แย่งงานสงวนของแรงงานไทย กระทรวงแรงงานจะเดินหน้าควบคุมอย่างเข้มข้น ทั้งการตรวจจับและการส่งเสริมให้ขึ้นทะเบียนภายใต้บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงาน (Memorandum of Understanding : MOU) อย่างถูกต้อง
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ร่วมกับชุดเฉพาะกิจ “ไตรเทพพิทักษ์” ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมการจัดหางาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง กระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในจังหวัดนนทบุรีและชลบุรี
จากปฏิบัติการดังกล่าวสามารถจับกุมแรงงานผิดกฎหมายได้รวม 34 คน โดยที่จังหวัดนนทบุรี ตรวจพบแรงงานต่างด้าวกระทำผิดพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 รวม 19 คน และที่จังหวัดชลบุรี อีก 15 คน ซึ่งทั้งหมดถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และเตรียมผลักดันกลับประเทศ ทั้งนี้แรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานมีโทษปรับ 5,000 – 50,000 บาท พร้อมผลักดันกลับประเทศ นายจ้างที่จ้างแรงงานเถื่อนมีโทษปรับ 10,000 – 100,000 บาทต่อคน หากทำผิดซ้ำ มีโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี หรือปรับ 50,000 – 200,000 บาท และห้ามจ้างแรงงานเป็นเวลา 3 ปี พร้อมย้ำชัดว่า กระทรวงแรงงาน จะเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อให้แรงงานต่างชาติทำงานอย่างถูกต้อง ไม่แย่งอาชีพคนไทย และสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดแรงงานไทย
นายพิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า นโยบายแรงงานต่างด้าวของรัฐบาลไม่ใช่เพียงการควบคุม แต่คือการสร้าง “สมดุล” ที่ชัดเจนระหว่างความต้องการแรงงานจากภาคธุรกิจ กับการปกป้องสิทธิและโอกาสในการทำงานของแรงงานไทย พร้อมทั้งสนับสนุนให้นายจ้างนำแรงงานเข้าระบบผ่านช่องทาง MOU ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้กระทรวงแรงงานจะไม่ปล่อยให้แรงงานเถื่อนทำลายตลาดแรงงานไทยอีกต่อไป ขอให้นายจ้างเร่งนำลูกจ้างขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง และขอให้แรงงานต่างด้าวทุกคนทราบว่า ประเทศไทยมีกฎหมายที่ชัดเจน อาชีพบางอย่างสงวนเพื่อแรงงานไทยเท่านั้น ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด กระทรวงแรงงานจะยังคงตรวจสอบอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ พร้อมเปิดรับข้อมูลและเบาะแสจากประชาชน เพื่อร่วมกันปกป้องตลาดแรงงานไทยให้มั่นคงและยั่งยืน
ขณะที่กลุ่มแรงงานอิสระนั้น กระทรวงแรงงานยังคงเดินหน้าพัฒนาศักยภาพ และดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้ครอบคลุมอย่างต่อเนื่อง โดยนายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานแรงงานจังหวัดหลายจังหวัดกำลังเร่งอบรมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเครือข่ายของแรงงานอิสระ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับตามร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ พ.ศ. … ที่อยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการดูแลคุ้มครองแรงงานอิสระที่มีอยู่กว่า 20 ล้านคน เช่นเดียวกับแรงงานในระบบผ่านกฎหมายเพื่อกลุ่มแรงงานอิสระโดยเฉพาะ ซึ่งจะครอบคลุมทั้งเกษตรกร รับจ้าง ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ไรเดอร์อินฟลูเอนเซอร์ และอื่นๆ สำหรับกลุ่มเครือข่ายแรงงานอิสระที่แต่ละพื้นที่เลือกมาร่วมอบรมนั้นมีหลากหลาย เช่น บัณฑิตแรงงานประจำอำเภอ อาสาสมัครแรงงาน (อสร.) อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) อาสายุติธรรม เป็นต้น
นายภูมิพัฒน์ กล่าวว่า เครือข่ายแรงงานอิสระเหล่านี้จะทำงานร่วมกับกลุ่มครู ก และ ครู ข ซึ่งเป็นเครือข่ายแกนนำที่กระทรวงแรงงานได้ส่งเสริมและพัฒนาความรู้ไปก่อนหน้านี้แล้ว เช่น หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดและผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสารวัตรกำนัน เพื่อประชาสัมพันธ์ ให้แรงงานอิสระในพื้นที่ขึ้นทะเบียนเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ หลังจากที่กฎหมายบังคับใช้แล้ว โดยประชาสัมพันธ์ ผ่านหอกระจายข่าว ลงพื้นที่ถึงบ้าน จัดประชุมหมู่บ้านหรือชุมชน ใช้โซเชียลมีเดียและสื่อต่างๆ เชิญชวนให้ประชาชนขึ้นทะเบียน นอกจากนี้ ยังแนะนำการใช้งานการขึ้นทะเบียนแรงงานอิสระ ผ่าน “ระบบแรงงานอิสระ INDE-REGIS” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรองรับฐานข้อมูลแรงงานอิสระ เพื่อช่วยให้คนเหล่านี้เข้าถึงสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากกระทรวงแรงงานและหน่วยงานอื่นของรัฐ
นายภูมิพัฒน์ ระบุว่า แรงงานอิสระสามารถเข้าใช้งานระบบ INDE-REGIS ได้ทั้งทางแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์ มือถือและทางเว็บไซต์ เพียงค้นหาคำว่า INDE-REGIS จากนั้นเข้าสู่ระบบและดำเนินการตามขั้นตอน หรือจะติดต่อเจ้าหน้าที่ของสำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด อาสาสมัครแรงงานทุกตำบล และบัณฑิตแรงงานประจำอำเภอให้ช่วยขึ้นทะเบียนให้ โดยข้อมูลล่าสุดมีผู้ขึ้นทะเบียนแรงงานอิสระผ่านระบบ INDE-REGIS แล้ว 505,678 คน สำหรับประโยชน์โครงการขึ้นทะเบียนแรงงานอิสระ เช่น ได้รับการส่งเสริมการมีงานทำ พัฒนาทักษะฝีมือ มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิกกองทุน รับบริการเงินกู้ ประกันอุบัติเหตุ มีสิทธิจัดตั้งกลุ่มองค์กรเพื่อปกป้องผลประโยชน์และเรียกร้องความเป็นธรรม เป็นต้น