นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถาบันการเงินรัฐทั้ง 8 แห่ง เร่งออกมาตรการช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แผ่นดินไหว ประกอบด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ออกมาตรการพักหนี้ ลดดอกเบี้ย ให้กู้ซ่อม-สร้าง และจ่ายสินไหม , ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ออกมาตรการ พักชำระหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ย 12 เดือน และเพื่อซ่อมแซมฟื้นฟูกิจการ, บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ออกมาตรการพักชำระค่าธรรมเนียม 6 เดือนสำหรับลูกค้า และพักชำระค่างวดจ่ายหนี้ 3 งวดสำหรับลูกหนี้
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ออกมาตรการเติมสภาพคล่อง-ผ่อนปรนดอกเบี้ย-พักหนี้, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดสินเชื่อฉุกเฉิน-ฟื้นฟู วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท, ธนาคารออมสินออกมาตรการแบ่งเบาภาระลูกหนี้ปัจจุบัน สำหรับสินเชื่อบ้าน สินเชื่อธนาคารประชาชน และสินเชื่อ SMEs โดยพักชำระเงินต้นทั้งหมด และลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0 สูงสุดเป็นระยะเวลา 3 เดือน สนับสนุนสินเชื่อเพื่อกู้ซ่อมแซมบ้าน กู้ฟื้นฟูกิจการ สำหรับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ สินเชื่อฉุกเฉิน วงเงินกู้สูงสุด 20,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 สูงสุดเป็นระยะเวลา 3 เดือน และสินเชื่อกู้ซ่อมแซมบ้าน และสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 สูงสุดเป็นระยะเวลา 3 เดือน
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ลูกค้าเดิม พักชำระเงินต้นและกำไรสูงสุด 6 เดือน ส่วนลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ สามารถขอสินเชื่อ เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือฟื้นฟูกิจการ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตรากำไรต่ำสุดร้อยละ 1.99 ในปีแรก และระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 20 ปี และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) แบ่งเบาภาระลูกค้าสินเชื่อปัจจุบัน ลดค่างวดร้อยละ 75 ของค่างวดปัจจุบัน ชำระเพียงร้อยละ 25 เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยลูกหนี้บ้านและ SMEs คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 33 เดือน และ ลูกหนี้บุคคล คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี รวมถึงมาตรการสินเชื่อเพื่อกู้ ซ่อมบ้าน/กู้ ฟื้นฟูกิจการ
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อธนาคารที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับความช่วยเหลือตามสิทธิที่กำหนด