นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารถยนต์เพื่อการพาณิชย์ อาทิ รถกระบะ รถบรรทุก สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากมีความกังวลในความเสี่ยงในการชำระหนี้ของ SME และราคารถมือสองที่มีราคาตกต่ำลง ทำให้คนตัวเล็กหรือนักธุรกิจที่พึ่งเริ่มต้นไม่สามารถขับเคลื่อนธุรกิจของตนเองได้อย่าง เต็มที่
ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน รัฐบาลโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กระทรวงการคลัง เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ ผ่านมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” เพื่อกระตุ้นตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่ลดลงให้กลับมาฟื้นตัว ภายใต้วงเงินค้ำประกันในระยะแรก 5,000 ล้านบาท
โดยมีวงเงินค้ำประกันต่อรายสูงสุด 1.5 ล้านบาท โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จะค้ำประกันและจ่ายส่วนต่างของภาระหนี้กับราคาขายทอดตลาดให้กับสถาบันการเงินตามเงื่อนไข ทั้งนี้ รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบการออกค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ประชาชนใน 3 ปีแรก ส่วนปีที่ 4-7 และรัฐบาลจะช่วยออกค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมค้ำประกันจะเหลือเพียง 1.5% ต่อปี โดยสามารถค้ำประกันนานสูงสุด 7 ปี หรือ 84 งวด โดยจะเริ่มเปิดรับคำขอตั้งแต่ 1 เมษายน ไปจนถึง 30 ธันวาคม 2568
มาตรการดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 21,000 ล้านบาท ช่วยเหลือและสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในหลายภาคส่วนและคาดว่าจะสามารถขายรถเพื่อการพาณิชย์ได้กว่า 6,250 คัน สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อใหม่ได้กว่า 5,000 ล้านบาท ทำให้ลดความเสี่ยงและสร้างแรงจูงใจให้สถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อและช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ หรือรถกระบะและช่วยให้ผู้ผลิตยานยนต์และ Supply Chain เติบโตมากขึ้น
ขณะที่นายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงานมอเตอร์โชว์ กล่าวกับรายการ“เสียงจากใจไทยคู่ฟ้าว่า“ตนขอสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการช่วยกระตุ้นการขายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รถปิคอัพ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกมิติเนื่องจากที่ผ่านมาสถาบันการเงินเข้มงวดมากเกินไปกับการให้สินเชื่อรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งนโยบายนี้จะช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่มียอดขายลดลงให้เพิ่มขึ้นได้ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
นางสาวศศิกานต์ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะดูแลเศรษฐกิจไทยในทุกมิติ มาตรการ ‘กระบะพี่ มีคลังค้ำ’ ไม่เพียงช่วยให้ประชาชนมีโอกาสเป็นเจ้าของรถกระบะเพื่อประกอบอาชีพ แต่ยังช่วยพยุงอุตสาหกรรมยานยนต์ กระตุ้นการจ้างงานและเสริมความมั่นคงให้เศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ผู้สนใจโครงการนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ บสย. Call Center 0 2890 999