ก.แรงงาน จ่ายเงินเยียวยาแรงงานเหยื่อแผ่นดินไหวแล้ว 18.7 ล้านบาท

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่บริเวณศูนย์ประสานงานและช่วยเหลือแรงงาน ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว (ศปช.รง.) และจุดพักคอยญาติผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุโครงสร้างอาคารของโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว โดยให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานดูแลอำนวยความสะดวกให้กับผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งแรงงานชาวไทยและแรงงานชาวต่างชาติ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ติดค้างใต้อาคาร

นายบุญสงค์ ยืนยันว่า กระทรวงแรงงานพร้อมดูแลช่วยเหลือชาวต่างชาติที่มาทำงานในไทย ที่ได้รับผลกระทบเสมือนคนไทยทุกคน โดยญาติสามารถเขียนคำร้องต่อกระทรวงแรงงาน จากนั้นกระทรวงแรงงานจะอนุมัติจ่ายเงินให้ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตภายใน 15 วัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมหรือไม่ โดยมีจำนวนเงินเยียวยา เบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 1- 2 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคม นายจ้างต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนผู้บาดเจ็บสำนักงานประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน จะเป็นผู้ดูแลค่ารักษาให้จนกว่าจะสิ้นสุดการรักษา สำหรับผู้ว่างงานที่นายจ้างไม่จ้างงานจากเหตุแผ่นดินไหว กระทรวงแรงงานจะจ่ายเงินชดเชยว่างงานให้ 6 เดือน เดือนละ 7,500 บาท กรณีผู้ที่ไม่ขึ้นทะเบียนจะมีการวินิจฉัยเงินนอกกองทุนเงินทดแทนให้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีลูกจ้างในวันที่เกิดเหตุกี่คน คาดว่าจะทราบจำนวนที่ชัดเจนวันที่ 7- 8 เมษายนนี้

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน ได้จัดตั้งวอร์รูมเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานภายใน 1 ชั่วโมงทันทีหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวทั่วประเทศ โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2568 เวลา 16.00 น. พบว่าจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจำนวน 23 จังหวัด และมีสถานประกอบกิจการที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ จำนวน 198 แห่ง ทั้งนี้ได้ดำเนินการช่วยเหลือจ่ายเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสิทธิประโยชน์ประกันสังคมทั่วประเทศแล้ว 22 ราย รวมเป็นเงิน จำนวน 18,782,234 บาท แบ่งเป็น ค่าทำศพ 900,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต 16,870,392 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 1,001,842 บาท

นายคารม กล่าวเพิ่มว่า กรณีตึกถล่ม มียอดรวม 103 ราย จำแนกเป็น ผู้บาดเจ็บ 9 ราย โดยเป็นแรงงานไทย 2 ราย แรงงานต่างชาติ 6 ราย ไม่ทราบสัญชาติ 1 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตมี 15 ราย เป็นคนไทย 12 ราย แรงงานต่างชาติ 3 ราย และสูญหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 79 ราย ขณะนี้ สำนักงานประกันสังคมเตรียมจ่ายสิทธิประโยชน์ประกันสังคม จำนวน 15 ราย เป็นเงิน 14,094,396 บาท

นายคารม ย้ำว่า ญาติผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ สามารถนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมายื่นเพื่อดำเนินการขอรับสิทธิประโยชน์ได้ โดยกระทรวงแรงงานจะดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ซึ่งหากเอกสารครบสามารถดำเนินการให้เสร็จ ภายใน 7 วัน

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ออกมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ 18 จังหวัด โดยมีแนวทางดังนี้

1. สัญญาเช่าที่ดินเพื่ออยู่อาศัย และสัญญาเช่าที่ดินเพื่อประโยชน์อย่างอื่น (ไม่ยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง) พิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้เช่าที่ราชพัสดุ ดังนี้

  • โครงสร้างอาคารที่มีความเสียหายอย่างหนักและอาจเกิดการพังถล่มได้ หรืออาคารที่มีสภาพเป็นอันตรายที่ส่งผลถึงชีวิต ซึ่งไม่สามารถให้ใช้งานอาคารต่อไปได้ ยกเว้นค่าเช่าไม่เกิน 1 ปี
  • โครงสร้างอาคารที่มีความเสียหายปานกลาง สามารถใช้งานได้ แต่ต้องระมัดระวังภัยจากเศษวัสดุร่วงหล่น จากชิ้นส่วนโครงสร้างและส่วนประกอบต่างๆ ของอาคาร ยกเว้นค่าเช่าไม่เกิน 6 เดือน

2. สัญญาเช่าอาคารราชพัสดุ สัญญาเช่าที่ราชพัสดุ และสัญญาเช่าที่ดินเพื่อประโยชน์อย่างอื่น (ยกกรรมสิทธิ์ ให้กระทรวงการคลัง) พิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้เช่าที่ราชพัสดุ ดังนี้

  • โครงสร้างอาคารที่มีความเสียหายอย่างหนักและอาจเกิดการพังถล่มได้ หรืออาคารที่มีสภาพเป็นอันตรายที่ส่งผลถึงชีวิต ซึ่งไม่สามารถให้ใช้งานอาคารต่อไปได้ ยกเว้นค่าเช่าหรือค่าตอบแทนเป็นไม่เกิน 1 ปี 
  • โครงสร้างอาคารที่มีความเสียหายปานกลาง สามารถใช้งานได้ แต่ต้องระมัดระวังภัยจากเศษวัสดุร่วงหล่น จากชิ้นส่วนโครงสร้างและส่วนประกอบต่าง ๆ ของอาคาร ยกเว้นค่าเช่าเป็นไม่เกิน 3 เดือน

3. สัญญาก่อสร้างอาคารยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง พิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้เช่าที่ราชพัสดุ ดังนี้

  • โครงสร้างอาคารที่มีความเสียหายอย่างหนักและอาจเกิดการพังถล่มได้ หรืออาคารที่มีสภาพที่เป็นอันตรายที่ส่งผลถึงชีวิต ซึ่งไม่สามารถให้ใช้งานอาคารต่อไปได้ ให้ขยายระยะเวลาการก่อสร้าง พร้อมทั้งยกเว้นการชำระค่าตอบแทนการใช้ที่ดินในระหว่างก่อสร้างเป็นไม่เกิน 1 ปี
  • โครงสร้างอาคารที่มีความเสียหายปานกลาง สามารถใช้งานได้ แต่ต้องระมัดระวังภัยจากเศษวัสดุร่วงหล่นจากชิ้นส่วนโครงสร้างและส่วนประกอบต่างๆ ของอาคาร ให้ขยายระยะเวลาการก่อสร้าง พร้อมทั้งยกเว้นการชำระค่าตอบแทนการใช้ที่ดินในระหว่างก่อสร้างเป็นไม่เกิน 6 เดือน

นายคารม ระบุว่า ผู้เช่าที่ราชพัสดุในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายตามรายงานสถานการณ์สาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย สามารถยื่นคำร้อง โดยแนบแบบสำรวจความเสียหายขั้นต้นของโครงสร้างอาคารหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวของกรมโยธาธิการและผังเมือง ณ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ สำหรับที่ราชพัสดุที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร สามารถยื่นต่อกรมธนารักษ์ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568

ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว สามารถยื่นขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐได้ตามประเภทของความเสียหาย สำหรับประเภทของที่อยู่อาศัยที่มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือ ประกอบด้วย บ้านพักอาศัยหลัก ซึ่งมีทะเบียนบ้าน บ้านเช่า โดยผู้เช่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือ และที่อยู่อาศัยอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบแม้ไม่มีทะเบียนบ้าน (ต้องยื่นเอกสารรับรองเพิ่มเติม เช่น แบบฟอร์ม ปค.14) โดยต้องแนบเอกสารหลักฐานประกอบคำขอตามที่กำหนด ซึ่งเอกสารรับรองความเสียหาย ต้องมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่ออกโดยสำนักงานเขต เพี่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันสิทธิในการขอรับความช่วยเหลือ และสำนักงานเขตต้องระบุให้ชัดเจนว่าสาเหตุของความเสียหายเกิดจากแผ่นดินไหว

ประเภทความช่วยเหลือที่สามารถยื่นขอได้ ได้แก่

ค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 49,500 บาท/หลัง โดยจะต้องเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าบ้าน ผู้ครอบครอง ที่อาศัยอยู่เป็นประจำและได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว และต้องมีเอกสารรับรองความเสียหายจากสำนักงานเขต

เอกสารที่ต้องใช้ ประกอบด้วย แบบสอบข้อเท็จจริงผู้ประสบภัย สำเนาบัตรประชาชน หรือพาสปอร์ต (กรณีไม่มีสัญชาติไทย) สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองสิทธิการครอบครอง บันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ หนังสือรับรองผู้ประสบภัย (แบบ บ.ส.3) เอกสารเพิ่มเติม (ปค.14) หากหลักฐานยังไม่ชัดเจน ให้เพิ่มเอกสารประกอบการขอรับความช่วยเหลือค่าวัสดุซ่อมแซมที่พักอาศัย และรูปภาพความเสียหาย

ค่าที่พักอาศัยชั่วคราว หรือค่าเช่าบ้าน จัดสรรเป็นค่าเช่าบ้าน 3,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน รวมไม่เกิน 6,000 บาท โดยจ่ายเฉพาะอาคารที่ กทม. ประกาศระงับการใช้และไม่ได้เข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงที่ กทม. ตามระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย

คุณสมบัติผู้ขอรับความช่วยเหลือ ต้องเป็นเจ้าของบ้าน ผู้ครอบครอง ผู้ดูแล หรือผู้เช่าบ้าน ที่พักอาศัยได้รับความเสียหายจนไม่สามารถเข้าอยู่ได้

เอกสารที่ต้องใช้ แบบสัมภาษณ์ผู้ประสบภัย สำเนาบัตรประชาชน (ต้องไม่หมดอายุ) สำเนาบันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ หนังสือรับรองผู้ประสบภัย (แบบ บ.ส.3) ระบุว่าบ้านพักไม่สามารถอยู่อาศัยได้ บันทึก (ปค.14) ใช้ในกรณีที่เอกสารหลักฐานยังไม่เพียงพอ รูปภาพความเสียหายของที่พักอาศัย และเอกสารเพิ่มเติม
(ถ้ามี) เช่น สัญญาเช่า ใบเสร็จค่าเช่า

เงินทุนประกอบอาชีพ ไม่เกิน 11,400 บาท/ครอบครัว โดยต้องเป็นประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ เนื่องจากอุปกรณ์หรือเครื่องมือประกอบอาชีพหลักได้รับความเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้

เอกสารที่ต้องใช้ แบบสัมภาษณ์ผู้ประสบภัย สำเนาบัตรประชาชน (ต้องไม่หมดอายุ) สำเนาบันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ หนังสือรับรองผู้ประสบภัย (แบบ บ.ส.3) พร้อมบัญชีรายการความเสียหาย รูปภาพความเสียหายของอุปกรณ์หรือเครื่องมือประกอบอาชีพ

เงินปลอบขวัญ วงเงินช่วยเหลือสูงสุด 2,300 บาท โดยต้องเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว และสามารถแสดงหลักฐานการรักษาพยาบาลได้

เอกสารที่ต้องใช้ แบบสัมภาษณ์ผู้ประสบภัย สำเนาบัตรประชาชน (ต้องไม่หมดอายุ) สำเนาบันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ หนังสือรับรองผู้ประสบภัย (แบบ บ.ส.3) พร้อมบัญชีรายการความเสียหาย ใบรับรองแพทย์ ระบุว่าได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว

ค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ แบ่งเป็น กรณีบาดเจ็บสาหัส (ต้องพักรักษาตัวในสถานพยาบาลติดต่อกันตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป) ได้รับเงินช่วยเหลือ 4,000 บาท และกรณีบาดเจ็บถึงขั้นพิการ (ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ) ได้รับเงินช่วยเหลือ 13,300 บาท วงเงินการช่วยเหลือ ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน

เอกสารที่ต้องใช้ แบบสัมภาษณ์ผู้ประสบภัย สำเนาบัตรประชาชน (ต้องไม่หมดอายุ) สำเนาบันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ หนังสือรับรองผู้ประสบภัย (แบบ บ.ส.3) พร้อมบัญชีรายการความเสียหาย ใบรับรองแพทย์ ระบุอาการบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว และระยะเวลาการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

ค่าจัดการศพผู้เสียชีวิต รายละไม่เกิน 29,700 บาท หากผู้เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัว หรือผู้หารายได้หลัก พิจารณาเงินสงเคราะห์ครอบครัวเพิ่มอีก 29,700 บาท

เอกสารที่ต้องใช้ แบบสัมภาษณ์ผู้ประสบภัย สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตของผู้เสียชีวิต สำเนาบัตรประชาชนของทายาทหรือผู้จัดการศพ สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เสียชีวิต (ฉบับปัจจุบัน) สำเนาทะเบียนบ้านของทายาท (ฉบับปัจจุบัน) สำเนาใบมรณบัตร สำเนาบันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ หนังสือรับรองผู้ประสบภัย (แบบ บ.ส.3) และบัญชีความเสียหายแนบท้าย แบบ ปค.14 (ใช้ยืนยันความเป็นทายาทหรือผู้จัดการศพและกรณีเป็นหัวหน้าครอบครัว)

ผู้ขอรับความช่วยเหลือต้องมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่ออกโดยสำนักงานเขตและเอกสารอื่นๆ ตามที่ระบุในแต่ละกรณี ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยต้องติดต่อสำนักงานเขตพื้นที่ที่อยู่อาศัยของตนเอง เพื่อขอคำแนะนำและยื่นคำร้องภายในระยะเวลาที่กำหนด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง