พลตำรวจเอก ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับนายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงิน (ปปง.) และตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้างปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การดำเนินงานของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประจำปีงบประมาณ 2568 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568 ดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จำนวน 252 คดี สามารถยึดอายัดทรัพย์ได้กว่า 1,900 ล้านบาท และได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้า การครอบครองและการจำหน่าย
นอกจากนี้ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปปง.ตร.) ยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่ดำเนินการจับกุมและประสานความร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินและกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายการกระทำความผิดมูลฐาน โดยผลการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 6 เมษายน 2568 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 2,300 ราย ยึดของกลางกว่า 1,600,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 290 ล้านบาท เป็นคดีสำคัญรายใหญ่ที่สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ 22 คดี ของกลางกว่า 830,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
ด้านรองเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า หากตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรฯ จะเป็นความผิดมูลฐานนำไปสู่การยึดอายัดทรัพย์สินได้ โดยจะสามารถดำเนินการได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา ในมาตรการริบทรัพย์และการฟอกเงิน
